..ธรรมธัชบัณฑิต ตอนที่ 1..
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภพระเทวทัตพยายามปลงพระชนม์พระองค์ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้
ความย่อว่า พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เทวทัตพยายามฆ่าเรา ในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้เมื่อก่อนก็พยายามฆ่าเราเหมือนกัน แต่ไม่อาจทำแม้เพียงความสะดุ้งสะเทือน จึงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า
ในอดีตกาล มนุษย์คนหนึ่งถูกตัดสินให้แพ้คดีที่ศาลประคองแขนสะอึกสะอื้นออกจากศาล เห็นพระโพธิสัตว์กำลังไปทำราชการ จึงซบลงที่เท้าพระโพธิสัตว์เล่าเรื่องที่ตนแพ้คดีว่า
ข้าแต่นาย เมื่อคนเช่นท่านถวายอรรถและธรรมแด่พระราชายังอยู่ กาฬกะเสนาบดีรับสินบนทำผู้ไม่เป็นเจ้าของให้เป็นเจ้าของ
พระโพธิสัตว์เกิดความสงสารกล่าวว่า มาเถิดพ่อหนุ่มเราจักวินิจฉัยคดีของท่านเอง แล้วพามนุษย์ผู้นั้นไปยังศาล มหาชนประชุมกัน
พระโพธิสัตว์กลับตัดสินให้เจ้าของนั้นแหละเป็นเจ้าของ มหาชนต่างแซ่ซ้องสาธุการ เสียงนั้นได้อึกทึกสนั่นไป
พระราชาทรงสดับเสียงนั้นตรัสถามว่า นั่นเสียงอะไร ราชบุรุษกราบทูลว่า
ขอเดชะ ธรรมธัชปัณฑิตตัดสินคดีที่กาฬกะเสนาบดีตัดสินไว้ผิดให้ถูก นั่นเป็นเสียงแซ่ซ้องร้องสาธุการ ณ ที่นั้น พระพุทธเจ้าข้า
พระราชาทรงโสมนัสตรัสให้หาพระโพธิสัตว์มาตรัสถามว่า ท่านอาจารย์ได้ยินว่า ท่านตัดสินคดีหรือ
กราบทูลว่า ข้าแต่มหาราช ถูกแล้วพระเจ้าข้า ท่านกาฬกะเสนาบดี ตัดสินไว้ไม่ดี ข้าพระพุทธเจ้าวินิจฉัยเสียใหม่
ตรัสว่าตั้งแต่นี้ไป ขอให้ท่านจงตัดสินคดีเถิด เราจะได้สบายหู ทั้งประชาชนจะได้มีความเจริญ แล้วทรงขอร้องว่า ท่านจงนั่งที่ตัดสินคดี เพื่ออนุเคราะห์ต่อราษฎรเถิด
แม้พระโพธิสัตว์ไม่ปรารถนา แต่ก็ได้ทำตามพระประสงค์
ตั้งแต่นั้นมาพระโพธิสัตว์ก็นั่ง ณ ที่ตัดสินคดี กระทำผู้เป็นเจ้าของให้เป็นเจ้าของ กาฬกะเสนาบดี เมื่อไม่ได้รับสินบน ตั้งแต่นั้นมาก็เสื่อมจากลาภ จึงเพ็ดทูลพระราชาให้บาดหมางพระโพธิสัตว์ว่า
ข้าแต่มหาราช ธรรมธัชบัณฑิต ปรารถนาราชสมบัติของพระองค์
พระราชาไม่ทรงเชื่อ ทรงห้ามว่าท่านอย่าพูดอย่างนั้นเมื่อเสนาบดีกราบทูลอีกว่า
หากพระองค์ไม่ทรงเชื่อข้าพระองค์ ขอจงทรงคอยทอดพระเนตรทางพระแกลในเวลาที่ธรรมธัชบัณฑิตมาเถิด ทีนั้นพระองค์ทรงเห็นพระนครทั้งสิ้นถูกธรรมธัชบัณฑิตกำไว้ในเงื้อมมือของตน
พระราชาทอดพระเนตรขบวนพวกลูกความของธรรมธัชบัณฑิต ทรงเข้าใจว่าเป็นพวกของธรรมธัชบัณฑิตทั้งสิ้น ทรงแหนงพระทัย ตรัสถามว่า เราจะทำอย่างไรเสนาบดี
กราบทูลว่า ขอเดชะ ควรฆ่าธรรมธัชบัณฑิตพระเจ้าข้า
ตรัสว่า เรายังไม่เห็นโทษร้ายแรงจะฆ่าเขาอย่างไรได้
กราบทูลว่า มีอุบายอย่างหนึ่งพระเจ้าข้า
ตรัสถามว่าอุบายอย่างไร
กราบทูลว่า
ขอพระองค์ทรงยกกรรมอันให้แก่ธรรมธัชบัณฑิตนั้น
แล้วฆ่าเขาผู้ไม่สามารถทำกรรมนั้นได้เสีย
โดยความคิดนั้นเถิดพระเจ้าข้า
ตรัสถามว่า ก็กรรมอันเหลือวิสัยของธรรมธัชบัณฑิตเป็นอย่างไร
กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ ธรรมดาอุทยานที่ปลูกสร้างในพื้นดินแข็งบำรุงอยู่ จะให้ผลใน ๓ – ๔ ปี ขอพระองค์ตรัสเรียกธรรมธัชบัณฑิตนั้นมา แล้วตรัสว่า ดูก่อนบัณฑิตเราประพาสอุทยานเก่ามานานแล้ว
บัดนี้ประสงค์จะประพาสอุทยานใหม่ พรุ่งนี้เราจะไปประพาสอุทยาน ท่านจงสร้างอุทยานให้เราเถิด ธรรมธัชบัณฑิตนั้น คงสร้างไม่ได้เป็นแน่ ที่นั้นแหละพระองค์จักสำเร็จโทษธรรมธัชบัณฑิตเสีย
พระราชาตรัสเรียกพระโพธิสัตว์มาตรัสตามที่กาฬกะเสนาบดีทูลอุบายทุกประการ
พระโพธิสัตว์ทราบว่า พระราชาถูกกาฬกะเสนาบดีผู้ไม่ได้รับสินบนเพ็ดทูลยุยงแล้ว
กราบทูลว่า ขอเดชะ ข้าพระองค์สามารถจักรู้เอง กลับไปเรียน บริโภคโภชนะอย่างดี นอนคิดตรองอยู่บนที่นอน
พิภพของท้าวสักกะได้แสดงอาการร้อน ท้าวเธอตรวจดูก็รู้ความคิดของพระโพธิสัตว์ รีบเสด็จมาเข้าห้องอันมีสิริประทับยืนอยู่บนอากาศ
ตรัสถามว่า บัณฑิต ท่านคิดอะไร
พระโพธิสัตว์ถามว่า ท่านเป็นใคร
ตอบว่าเราเป็นท้าวสักกะ
พระโพธิสัตว์จึงบอกว่า พระราชาให้ข้าพระองค์สร้างอุทยานใหม่ ข้าพระองค์คิดว่า จักทำอย่างไรจึงจะสร้างได้
ท้าวสักกะตรัสว่า บัณฑิตท่านอย่าคิดเลย เราจักเนรมิตอุทยานเช่นกับสวนนันทวันและจิตรลดาให้ท่าน ท่านจะให้สร้างที่ไหน
พระโพธิสัตว์ทูลว่า ขอจงสร้างที่โน้นเถิด
ท้าวสักกะเนรมิตแล้วก็เสด็จกลับเทพนคร รุ่งขึ้นพระโพธิสัตว์เห็นอุทยานโดยประจักษ์แล้ว
จึงไปกราบทูลพระราชาว่า ข้าแต่มหาราช อุทยานสำหรับพระองค์สำเร็จแล้ว ขอจงเสด็จประพาสเถิด
พระราชาเสด็จไปทอดพระเนตรเห็นอุทยานแวดล้อมด้วยปราการสีดังมโนศิลาสูง ๑๘ ศอก มีประตูหอรบครบครัน ประดับด้วยรุกขชาตินานาพรรณ ผลิดอกออกผลสะพรั่ง จึงตรัสถามกาฬกะเสนาบดีว่า บัณฑิตได้ทำตามคำสั่งของเราแล้ว บัดนี้เราจะทำอย่างไรต่อไป
กราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า บัณฑิตสามารถสร้างอุทยานได้โดยคืนเดียว จะไม่สามารถชิงราชสมบัติหรือ
พระราชาตรัสถามว่า บัดนี้เราจะทำอย่างไรต่อไป
กราบทูลว่าจะให้ทำกรรมที่สุดวิสัยอย่างอื่น พระเจ้าข้า
ตรัสถาม กรรมอะไร กราบทูลว่า ขอจงโปรดให้สร้างสระโบกขรณีอันแล้วด้วยแก้ว ๗ ประการ
พระราชารับว่า ดีละ จึงตรัสเรียกพระโพธิสัตว์มาแล้วตรัสว่า ดูก่อนอาจารย์ อุทยานท่านได้สร้างเสร็จแล้ว ท่านจงสร้างสระโบกขรณีอันแล้วด้วยแก้ว ๗ ประการอันสมควรแก่อุทยานนี้เถิด ถ้าไม่สามารถสร้างได้ ชีวิตท่านจะหาไม่
—รออ่านตอนต่อไปนะคะ—
..ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..