เรือสำปั้น

เรือสำปั้น

รับจ้างขนมะพร้าวอ่อนตามสวนส่งขายให้คนกลาง
ต้องวางแผน..
เข็นเรือในท้องร่องเก็บมะพร้าวตามโคนต้น
ค่อยๆเรียงมะพร้าวจนเต็มลำ..
รอน้ำขึ้นก็จะได้เงินแล้ว
ระหว่างรอสามคนแม่ลูก
กินมะพร้าวอ่อนประทังหิวไปก่อน

เรือลำน้อยบรรทุกมะพร้าวเต็มแปะ
พายเรือออกกลางแม่น้ำใหญ่
เห็นท่าเรืออยู่ไกลๆ

อยู่ๆฟ้าก็มืดครึ้มลมแรงมาก
ในที่สุดฝนก็ตก
เรียกลูกชายมานั่งด้วยกัน…
ลูกกอดแม่แน่น ตั้งสติบอกลูกว่า
นั่งดีๆนะอย่าเพิ่งกอด
แม่จะรีบพายให้ถึงเร็วๆ

อกสั่นขัวญแขวน

พายเรือที่พร้อมจะจมเพราะน้ำฝนสุดชีวิตเรือถึงท่าก็จมพอดี
คนบนท่าช่วยกันโยนมะพร้าวขึ้นฝั่ง
กู้เรือลำน้อยกลับมาลอยอีกครั้ง

เถ้าแก่เรียกไปรับเงินค่ามะพร้าว
ถามว่า มะพร้าวกี่ลูกตอบไปว่า120ลูก
เถ้าแก่พูดว่า
” ครั้งหน้าอย่าเอามะพร้าว
มาเกินร้อยลูกนะ เรือลำนี้ใส่ได้ไม่เกินร้อย โชคดีที่เรือมาจมที่หน้าท่า
หากเรือจมกลางแม่น้ำคงกอดกันตายทั้งสามคน โชคดีไม่ได้มีบ่อยๆนะโว้ย”

ความเป็นความตายอยู่แค่ปลายจมูก
เสียใจ เสียใจที่ใช้แต่แรง..ไม่มีปัญญา
เรื่องนี้สร้างความเศร้าหมองใจทุกครั้งที่เห็นฝนตกกระหน่ำ

กำลังใจจากคนอื่นก็ไม่เท่ากำลังจากตนเอง
ประสบการณ์ชีวิตทำให้เลือกเดินในเส้นทางที่เป็นทุกข์น้อยที่สุด

ความประมาทในวันนั้น
ทำให้มีเรื่องเล่าในวันนี้
เรือไม่รั่วแต่จมได้

แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ