อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 40—ประสบการณ์ตรง—

—ประสบการณ์ตรง—

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 40

ผลจากทำร้ายพ่อแม่ด้วยการกระทำ..
ทางกาย..ทางวาจา..ทางใจ..ส่งผลให้รับกรรมอย่างสาหัส..ตัดสินใจปฎิบัติธรรมและลงมือปฎิบัติอย่างจริงจัง..

เจ็บปวดทุกตารางนิ้วของกาย..จนทำให้เห็นเวทนาอย่างแรงกล้า..แยกจิตออกมาดูกายที่เจ็บปวดเห็นแม่ท้องแก่กำลังทำงานจนคลอด..รู้สึกโล่งเบาไปทั้งตัว..

นั่งใช้กรรมที่แม่คลอดเราออกมาได้ด้วย

ได้เห็นอัศจรรย์ของวิปัสสนากรรมฐานในวันนั้น..ทำให้มั่นใจในการชดใช้กรรมให้พ่อแม่ด้วยความตั้งใจ

ทุกวันอารมณ์วิปัสสนากรรมฐานจะไม่เคยเหมือนกันสักวันเดียว..วันนี้นั่งแล้วปวดบ่า..ปวดหลัง..ปวดมากปวดจนตัวสั่นเหงื่อออกทั้งตัว..ในขณะเดียวกันมีความคิดเข้ามา..ที่ไม่ใช่ความคิดเรา..

เป็นความคิดที่ทุกข์ใจ..คับแค้นใจและไม่อยากตาย..จิตแยกออกมาแบบอัตโนมัติ

เห็นภาพเตี่ยเอาบ่าแบกศพ..เอาบ่าเข็นของหนัก..สลับเป็นภาพเตี่ยอุ้มหมูวางที่คอเขียง..มีผู้ชายอีกคนเป็นคนแทงคอ..มีดล้วงไปที่คอหมู..

ตัวนี้แทงแล้ว..เตี่ยอุ้มหมูอีกตัววาง..หมูที่แทงคอแล้วไม่ได้ตายทันที่..ยังดิ้น.ดิ้นจนขาดใจ..ความทุกข์ใจเป็นของเตี่ย..ความคับแค้นใจเป็นของหมู..

..ปัญญาเกิดเดี๋ยวนั้นว่า..พ่อแม่ทำอาชีพอะไรเลี้ยงเรามา..เราต้องรับผลของกรรมนั้น 100%

เตี่ยทุกข์ใจไม่อยากทำ..แต่ต้องทำเพราะมันเป็นอาชีพ..หมูมันร้องตั้งแต่ถูกอุ้มขึ้นวาง แล้วถูกแทงคอ..มันทั้งร้องทั้งดิ้นจนตาย

ความเจ็บปวดทางกายเป็นเวทนา ที่พ่อแม่เลี้ยงเรามา..เกิดเป็นเวทนาในเวทนา

ความคิดที่ผุดขึ้นมาในจิต..เป็นจิตของหมูที่ไม่อยากถูกฆ่า..เห็นจิตในจิตชั่ววินาทีเดียวซ้อนเข้ามา..เกิดดับเร็วมาก..

อารมณ์ในขณะนั้นเห็นสภาวะธรรมทางกายที่เกิดเวทนา..จิตกระทบกับความดิ้นรนของจิต..เกิดเป็นตัวรู้เข้ามาที่จิตอย่างสว่างไสว

กรรมถูกชดใช้ไปเรื่อยๆด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน..เกิดมากี่ภพกี่ชาติก็ไม่รู้

ทุกนาที..ที่ลมหายใจเข้าออก..กรรมชั่วถูกลอกออกไปทีละชั้น..ทีละชั้น

กรรมดีทำให้รู้แจ้งแทงตลอด..ในแต่ละครั้งที่เจริญวิปัสสนากรรมฐาน

สติปัฎฐานสี่ ..กาย..เวทนา..จิต..ธรรม..
เป็นกุญแจไขประตูกรรม..ได้อย่างชัดเจน

ผลของทานที่มีโอกาสทำอาหารถวายพระสงฆ์..สามเณร..อุบาสก..อุบาสิกา..ที่มารักษาศีลปฎิบัติธรรมวันละ 400 รูป/คนต่อหนึ่งวัน..เข้ามาสนับสนุนกำลังของสมาธิ..

ทำให้เกิดปัญญา..ทำโดยไม่ได้คิดว่าจะได้อะไรตอบแทน..แค่อยากทำอาหารดีๆถวายพระเท่านั้น

บุญส่งผลทุกวัน..เกิดความว่องไวของจิต..และเห็นการเกิดดับชัดเจน..

..สังขารที่มีใจครองนี้ มีกรรมเป็นตัวแปล..มีความไม่เที่ยงเกิดขึ้นทุกขณะจิต..บังคับบัญชาไม่ได้..ไม่ใช่ตัวตน..เป็นสภาวะกรรม

..กายกับจิตเท่านั้น..ที่เสวยผลของกรรม..

..เมื่อรู้ว่าเส้นทางในการปฎิบัติธรรมสามารถชดใช้กรรมได้..แม่ชีปักมุด..มีเป้าหมายในการมีชีวิตที่เหลืออยู่อย่างไม่ลังเล

ปฎิบัติธรรมด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน..เป็นการรู้ได้เฉพาะตัวเฉพาะตน ลงมือปฎิบัติเท่านั้นถึงจะรู้แจ้งด้วยปัญญา

ถ้าไม่มีการรักษาศีล..ทำบุญใส่บาตรทุกวัน สวดมนต์บ้าง ไม่ได้ทำทุกวัน..

ถือว่าเป็นการสะสมบุญเรียกว่ากรรมดี..
ส่วนกรรมชั่วก็ส่งผลทุกวัน..ทุกข์ใจ
ทุกข์กาย..รับผลกรรมอยู่ตลอดเวลา
อยู่ที่ว่าจะเห็นเหตุของทุกข์เมื่อไหร่เท่านั้น

แม่ชีทุ่มสุดตัวเพื่อให้ทุกคนที่ผ่านเข้ามาได้เห็น ว่า เราต้องมีศรัทธา..รักษาศีลอย่างหมดจด..

เรียนรู้ด้วยการลงมือเจริญวิปัสสนากรรมฐาน..อย่างเข้าใจ..ค่อยๆปฎิบัติฝึกไปเรื่อยๆ..

ปฎิบัติเองที่บ้านก็ทำได้..ทำการงานด้วยสติเหมือนการปฎิบัติธรรมเช่นเดียวกัน

พระธรรมของพระพุทธเจ้า.อยู่ที่กายกับจิต มีอาหารหล่อเลี้ยงสังขาร..มีเครื่องนุ่งห่มมีที่อยู่อาศัย..และยารักษาโรค..ปัจจัยสี่นี้ ได้มาจากไหน..

ได้มาจากการประกอบอาชีพสุจริต..หรือทุจริต..จะมีกรรมดี..กรรมไม่ดี..ส่งผลให้อาหารที่กินเข้าไปในร่างกาย..เป็นเลือดเป็นเนื้อให้สังขารตั้งอยู่ได้..

ที่มาของปัจจัยสี่..จะบ่งบอกอารมณ์..
อารมณ์โกรธโลภหลง..อารมณ์ของผู้ให้
อารมณ์เมตตามากน้อยขึ้นอยู่ที่เจตนา..

—กรรมส่งผล—

เจตนาที่ส่งผลกระทบจิตใจพ่อแม่..ทำให้ท่านรู้สึกทุกข์ใจ..หรือกังวลใจในพฤติกรรมของเรา..ทุกครั้งที่ท่านเห็นเราแล้วหวาดหวั่นว่าจะถูกทำร้าย..หรือถูกกระทบกระแทกแดกดัน

คนเป็นลูกจะมีวิบากแตกต่างกันไป..บางคนป่วยหาโรคไม่เจอ..รักษาไป..รักษามา..หมอจะบอกถึงโรคที่เป็นว่า..รักษาได้หายหรือไม่..หมอไม่รับประกัน..เราจะมีความหวาดหวั่นกับโรคที่หมอบอกอย่างสาหัส

เงินทองที่หาเลี้ยงชีพมาสุจริตบ้าง..ทุจริตบ้าง..จะหมดไปอย่างรวดเร็ว..หมดไปกับการรักษาตัว..ถ้ามีลูก..ลูกก็จะเบื่อหน่าย..ในการป่วยของเรา..

ไม่มีใจที่จะดูแล..จิตเราจะตกลงไปอีก..จะโทษใครได้เราไม่เคยตอบแทนคุณบิดามารดา..ไม่มีใครดูแลเราเหมือนกัน

..บางคนพอมีลูกมีหลาน..
ลูกหลานจะทำแบบที่เราทำกับพ่อแม่..เป็นวงกลม..พูดอะไรไว้..ทำอะไรไว้..คิดอะไรไว้ ต้องเจ็บหัวใจเป็นสามเท่า..

..หน้าที่การงานมีปัญหา..ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้..มีการลงทุนที่ไม่เคยได้กำไร..หาทางออกไม่ได้..เริ่มอะไรได้ไม่นานก็พัง..เกิดหนี้สินง่ายมากแต่หาใช้คืนไม่ได้..นัดหมายอะไรไม่เป็นไปตามนัด..นี่ก็ผลกรรม

อันนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีความทุกข์ แบบหาทางดับทุกข์ไม่ได้

>>อย่าคิดว่าบุญน้อย..กรรมมากจึงไม่ปฎิบัติ..ที่ไหนก็ได้..ที่คิดว่าเหมาะกับเรา<<

คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย..ปฎิบัติธรรมแบบปวดก็ทน..นั่งบ้างเดินบ้างวนไป..ก็ได้ใช้กรรมเหมือนกัน..

การเจริญสมาธิและวิปัสสนาอย่างต่อเนื่อง..จะทำให้เห็นว่าที่แท้จริงแล้ว..ร่างกายนั้นเป็นการรวมตัวของธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลมไฟ เท่านั้นเอง

ไม่มีตัวตนอยู่ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และเห็นว่ากรรมนั้นมีจริง

คือ ทำดีย่อมได้รับความสุข ทำชั่วย่อมได้รับความทุกข์ เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็จะไม่ลูบคลำศีล แต่จะรักษาศีลอย่างเคร่งครัด นี่คือการเห็นธรรม

สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนปฎิบัติโดยไม่รู้ตัว..คือมีสติมากขึ้น.ระมัดระวังกาย วาจา.ใจ..เพื่อไม่ให้เกิดกรรมอีก

อยากให้ค้นหาที่มาของอารมณ์ต่างๆที่เข้ามากระทบ..ส่วนตัวแม่ชีเองนั้น.สิ่งที่เข้ามาในอารมณ์ต่างเช่น..ง่วง.เบื่อ..ปวด..ร้อน..น้ำตาไหล..คัน..ได้ยินเสียง..กำหนัด..แสบ
ร้อน..ยอก..สุข..นิ่ง..ดิ้นรน..เหนื่อย..ฟุ้ง.
ทุกอารมณ์ที่จิตเข้าไปรับรู้..และพิจารณา คือสภาวะธรรมของกรรมทั้งสิ้น..

ไม่มีสภาวะธรรมใดที่เกิดขึ้น..โดยไม่มีเหตุและผล..ของกรรมเลย..

ความอดทนจะทำให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลอดเวลา..

>>ไม่มีผู้ใดบังคัญบัญชาความไม่เที่ยงได้..เพียงเอาจิตเข้าไปดูเท่านั้น..ไม่ปรุงแต่งอะไรทั้งสิ้น..แล้วมันก็เปลี่ยนไป<<

ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้..สร้างขึ้นโดยไม่มีการเริ่มต้น..โอกาสเกิดขึ้นเสมอ..อยู่ที่เราจะใช้เมื่อไหร่

>>ค้นหาความจริงจากลมหายใจ<<

..แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..