วิบากกรรม…

วิบากกรรม

จิตคนเรามีความว่างเปล่า..เหมือนแก้ว

ใส ..รูปร่างเปรียบเหมือน..แก้วใส่น้ำ

แต่ด้วยวิบาก..ทำให้ถูกอารมณ์ของ..

กิเลส..โกรธ..กาม..ลุ่มหลง..ไหลลงใน

แก้วใสใบนี้..ทำให้แก้วใสใบนี้ขุ่นมัวเมื่อสิ่งที่

เรียกว่า..วิบากเกิดขึ้น..ตัณหาจึงตามมา..แก้วใสใบนี้

..หากยังไม่มีใครเท.กิเลสออก..ถูกเติมอยู่ตลอด..ทำให้ความดิ้นรนเกิดขึ้น…ซ้ำๆ…จากแก้วเปล่า..ถูกน้ำร้อนเทลงไปก็ร้อน..จากร้อนเอาน้ำแข็งเทลงไปอีก..ไม่นานแก้วก็แตก..จึงเป็นที่มาของการปฎิบัติธรรม..ตามดู..ตามกำหนดให้ทัน..ปวด..เจ็บ..ได้ยิน..กำหนดจนไม่มีช่องว่าง

ให้อะไร..ไหลลงไปในแก้วอีก..อย่างเร็วเจ็ดวัน

..ทุกอย่างที่เราใส่

ลงไปจะค่อยๆ..มอดเหมือนถ่านหมดเชื้อ..อย่างช้าเจ็ดเดือน..นานอีกนิดก็

เจ็ดปี..สงบ..เข้าสู่กระแสธรรม..เมื่อรู้

เท่าทันก็ไม่ตกเป็นทาสของ..กิเลสคือ

…………อารมณ์ต่างๆ…

ความหมายคำว่า”วิบาก”

แปลว่า”กรรม” เช่นคำพูด..ความคิด..การกระทำ..ในลักษณะนี้เรียกว่า….อกุศลกรรม..ในฝ่ายมืด..ตรงกันข้ามกับกุศลกรรม..ที่อยู่ในฝ่ายสว่าง…….กุศลไหลลงในแก้วใส..จิตใจ..ดวงตา ผิวพรรณผุดผ่อง…บุญทำกรรมแต่ง..

ให้จิตเยือกเย็นใครเห็นก็ปิติ..

การปฎิบัติธรรมเหมือน..การออกแบบ

ของวิศวกร..มีเราเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง..ทุกอย่างที่ออกแบบไว้..จะติดตามไปเกิดกับเราอีกในชาติหน้า..

ชาติหน้าคืออะไร?ไม่มีใครรู้..แต่ที่เคย พบเห็นคนที่ตายแล้ว..ไม่มีใครได้อะไรติดมือไปเลย ซักคนเดียว

ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ

บ้านเพชรบำเพ็ญ

15 มค2559

ที่มา : https://www.facebook.com/sasinunarunkittipat