ปัตจัตตังธรรมทาน หน้าที่19 อวิชชา

ปัตจัตตังธรรมทาน หน้าที่19
อวิชชา

แม่จ๋า..สามีหนูไปมีผู้หญิงอีกแล้ว
วันนี้หนูจะถามเขาให้รู้เรื่อง
หนูทนมากว่าสามสิบปี ครั้งนี้หนูจะไม่ทน

ลูกรัก
หนูจะพูดเพื่ออะไรก็แล้วแต่ มันจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก

ทะเลาะกันแล้วได้อะไร

ที่หนูเดือดดาลแบบนี้เขาเรียกว่า
ความยึดมั่นถือมั่น ตัวกูของกู
อัตตามันครอบงำให้หนูขาดสติ
หนูไม่มีทางชนะเขาได้ บางครั้งการไม่พูดมีค่าที่สุด

ความทุกข์ที่ถาโถม ทำให้ความโกรธทำงานอย่างเผ็ดร้อน เพื่อเรียกร้องสิทธิ์
ในการเป็นภรรยา น้อยเนื้อต่ำใจหาความสงบไม่ได้ ไหนจะงาน ไหนจะคำนินทา

ของฟรีไม่มีในโลก ทุกเรื่องมีเหตุ มีผล
แต่ปางก่อนหนูก็เคย เป็นแบบเขานี้แหล่ะ
ไม่มากกว่า ไม่น้อยกว่าเขา
เขาก็ช้ำใจแบบนี้เหมือนกัน

..หนูกำลังไม่พอใจ ในสิ่งที่หนูเคยทำ..

ตามหลักธรรมเรียกว่า อวิชชา คือความไม่รู้ เมื่อไม่รู้โกรธโลภหลง ก็ไหลเข้าไปในขันธ์ห้า

รูป..เป็นพฤติกรรม ดำริพยาบาท
เวทนา..เป็นความทุกข์ พอใจ..ไม่พอใจ
สัญญา..เป็นการจำผลที่ได้รับ
สังขาร..เป็นความรู้สึกนึกคิด
วิญญาณ..เป็นจิต ที่รับรู้ สิ่งที่เข้ามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

หนูต้องเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ให้อภัยใจตนเอง
เพื่อให้สติ มีกำลัง

เมื่อสติมีกำลัง ปัญญาจะทำให้เห็นตามความเป็นจริงของสังขาร

สิ่งที่ยึดเหนี่ยวไว้เป็นทุกข์..ไม่เที่ยง
ไม่ใช่ตัวตน..ไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของใคร

หนูกำลังเสวยผลของกรรม..ที่เคยทำไว้
หนูต้องอดทนพิจารณา

ชีวิตเป็นของเขา เขาจะมีใคร เป็นอย่างไรไม่เกี่ยวกับเรา

มันยากที่จะคิดแบบนี้ ยากตรงที่เข้าไปยึดว่าเป็นของเรา..ไอ้ความยึดมั่นนี่แหละ

บุญก็ทำ..กรรมก็สร้าง
ทุกข์ก็ลอยนวล..ไม่ดับซักเวลา
ไฟสามเฟส..ของกิเลสดึงอารมณ์
ทำให้สติอ่อนกำลัง..จำแต่เรื่องที่ถูกกระทำ

สามสิบกว่าปี มีความขัดแย้งด้วยความยึดมั่นถือมั่น ก่อกรรมก่อเวรใหม่เพิ่มอีกไม่จบ

ตายไปเกิดใหม่ ก็เจอกันอีกเรื่องเดิม ซีรีส์ปฏิจสมุปบาท สาเหตุแห่งการเวียนว่าย 12 สาเหตุ

  1. อวิชชา
  2. สังขาร
  3. วิญญาณ
  4. นามรูป
  5. สฬายตนะ
  6. ผัสสะ
  7. เวทนา
  8. ตัณหา
    9.อุปาทาน
  9. ภพ
  10. ชาติ
  11. ชรา มรณะ

หากเกิดมาเขาให้เราจำได้ทุกอย่าง
นี่ของเรา นี่ลูกเรา นี่เมียเรา นี่ผัวเรา
นี่สมบัติของเราทำไงกันดี

ชีวิต..คือ ผลของการสะท้อนกลับ
อยู่ดีมีความสุข..เพราะเราทำไว้
อยู่ร้อนนอนทุกข์ ..เราก็เป็นคนทำ

..กรรมไม่ส่งผิดตัว..

เกิดมาเพื่อเรียนรู้
ที่จะมีชีวิตอย่างประเสริฐ
อดทน..อดกลั้นกับสิ่งที่เข้ามากระทบ
ให้อภัยตนเอง วางจิตอุเบกขา

อีกไม่นานต้องพลัดพรากจากกัน
มีหน้าที่อะไร..ก็ทำให้ดีที่สุด
สัตว์ทั้งหลาย..มีกรรมเป็นของตน

โกรธคนอื่น..เท่ากับโกรธตนเอง

ปัจจุบันนี้..ผู้ที่ร้องทุกข์กำลังเจริญวิปัสสนากรรมฐาน..ตื่นรู้ในพระธรรม คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

วิปัสสนากรรมฐาน..ตามแนวสติปัฏฐานสี่เป็นวิชาเดียวในโลกที่สามารถถอดถอนความทุกข์จากวัฏสงสารได้

ให้ธรรมเป็นทาน..ชนะการให้ทั้งปวง

สาธุปัตจัตตังธรรมทาน
…………………………………………………………..
แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ