จากพระไตรปิฎก ฉบับ มมร. เล่มที่ ๒๔

จากพระไตรปิฎก ฉบับ มมร. เล่มที่ ๒๔
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่มที่ ๑ ภาคที่ ๑ หน้าที่ ๓๑๓ ข้อที่ ๒๑๕

๙. ปาเถยยสูตร
[๒๑๕] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอย่อมรวบรวมไว้ซึ่งเสบียง อะไรหนอเป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์ทั้งหลาย อะไรหนอย่อมเสือกไสนรชนไป อะไรหนอละได้ยากในโลก สัตว์เป็นอันมากติดอยู่ในอะไร เหมือนนกติดบ่วง
[๒๑๖] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ศรัทธาย่อมรวบรวมไว้ซึ่งเสบียง สิริ (คือมิ่งขวัญ) เป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์ทั้งหลาย ความอยากย่อมเสือกไสนรชนไป ความอยากละได้ยากในโลก สัตว์เป็นอันมากติดอยู่ในความอยาก เหมือนนกติดบ่วง

๑๐. ปัชโชตสูตร
[๒๑๗] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอเป็นแสงสว่างในโลก อะไรหนอเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก อะไรหนอเป็นสหายในการงานของผู้เป็นอยู่ด้วยการงาน อะไรหนอเป็นเครื่องสืบต่อชีวิตของเขา อะไรหนอบุคคลผู้เกียจคร้านบ้าง ไม่เกียจคร้านบ้าง ย่อมพะนอเลี้ยงดุจมารดาเลี้ยงดูบุตร เหล่าสัตว์มีชีวิตที่อาศัยแผ่นดินอาศัยอะไรหนอเลี้ยงชีวิต
[๒๑๘] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก สติเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก ฝูงโคเป็นสหายในการงานของผู้เป็นอยู่ด้วยการงาน ไถเป็นเครื่องต่อชีวิตของเขา ฝนย่อมเลี้ยงบุคคลผู้เกียจคร้านบ้าง ไม่เกียจคร้านบ้าง เหมือนมารดาเลี้ยงบุตร เหล่าสัตว์มีชีวิตที่อาศัยแผ่นดิน อาศัยฝนเลี้ยงชีวิต

๑๑. อรณสูตร
[๒๑๙] เทวดาทูลถามว่า
คนพวกไหนหนอไม่เป็นข้าศึกในโลกนี้ พรหมจรรย์ที่อยู่จบแล้วของชนพวกไหน ย่อมไม่เสื่อม คนพวกไหนกำหนดรู้ความอยากได้ในโลกนี้ ความเป็นไทมีแก่คนพวกไหนทุกเมื่อ มารดาบิดาหรือพี่น้องย่อมไหว้บุคคลนั้น ผู้ตั้งมั่นในศีล คือ ใครหนอ พวกกษัตริย์ ย่อมอภิวาทใครหนอในธรรมวินัยนี้ ผู้มีชาติต่ำฯ
[๒๒๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
สมณะทั้งหลายในธรรมวินัยนี้ ไม่เป็นข้าศึกในโลก พรหมจรรย์ที่อยู่จบแล้วของสมณะทั้งหลายย่อมไม่เสื่อม สมณะทั้งหลายย่อมกำหนดรู้ความอยากได้ ความเป็นไทย่อมมีแก่สมณะทั้งหลายทุกเมื่อ มารดาบิดาหรือพี่น้องย่อมไหว้บุคคลนั้น ผู้ตั้งมั่น (ในศีล) คือ สมณะ ถึงพวกกษัตริย์ก็อภิวาทสมณะในธรรมวินัยนี้ ผู้มีชาติต่ำฯ

จบ ฆัตวาวรรค
——————————-
ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ พาหุสัจจะ จาคะ ปัญญา
ทรัพย์อันประเสริฐที่มีอยู่ในใจตนจะเป็นคนประเสริฐอย่างแท้จริง

แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ