อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 23—สัญญา—

—สัญญา—

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 23

–เรื่องเล่าวัดเขาอิติสุคโต–

คืนวันหนึ่งที่กุฎิแม่ชีหลังที่ 1 หลวงพ่อปรีชาขึ้นมาพร้อมพระสงฆ์ 5 รูป..แม่ชีป่วยเป็นไข้ปอดชื้น..พอท่านนั่งเสร็จ..ที่ร่างกายแม่ชี มีความร้อนความเย็น..สลับเป็นพักๆ..

มีจิตของผู้รอคอย..มาผ่านร่างแม่ชี..แล้วพูดว่า..”จำหม่อมฉันได้มั้ย..หม่อมฉันเทวี 11 ทำไม..ให้รอแล้วไม่มารับ”

..หลวงพ่อมองมา..
แล้วพูด..”เรื่องในอดีตไม่รู้ภพไหนชาติไหน..แต่ชาตินี้ชั้นบวชเป็นพระอย่ามาตัดพ้อชั้นเลย”

เทวีที่อยู่ในร่างแม่ชีน้ำไหลพรากพูดว่า..
“กว่าจะตามมาพบก็ใช้เวลาหลายร้อยปี..พบแล้วก็ว่ามาตัดพ้อ..ท่านไม่รู้หรอกว่าการรอคอยมันทรมานมากจนทนรอไม่ไหว..กระโดดน้ำตายเพราะทนความคิดถึงไม่ได้”

หลวงพ่อเทศน์ให้เทวี 11 ฟังว่า..”การมีโอกาสได้เกิดมา..มันแสนยาก..เกิดมาแล้วมีความยึดถือครอบครองก็ยิ่งทุกข์..จะกี่ร้อยปีที่ผ่านมา..จิตก็ยังผูกพันธ์..ยึดมั่น..ถือมั่นไม่เสื่อมไม่คลาย”

..เทวี 11 เหมือนแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก..หลวงพ่อให้พระนั่งกรรมฐานส่งจิตมาที่แม่ชี..

ท่านว่า “ขอให้จิตที่ฆ่าตัวตายจงหลุดพ้นจากความหลง..ทำให้ตกอยู่ในอำนาจของตัณหา..ให้จิตนี้จงอนุโมทนากับท่านที่ได้บวชเป็นบรรพชิต..จงคลายความโหยหาอาวรณ์..เดี๋ยวนี้”
..ท่านเทศน์จบเทวี 11 ขาดใจตายทันที..

สักพักหลวงพ่อเรียกแม่ชีเสียงดัง..เอาผ้าที่พาดไหล่มา..ฟาดมาที่แม่ชี

..มีอีกคนสวมเข้ามาในกายแม่ชี..
กระโดดเข้าหาหลวงพ่ออย่างแรง..หลวงพ่อท่านตั้งรับอยู่แล้ว..ยกเท้ายัน..แม่ชีหงายหลัง..จิตดวงนี้หึงหวงสุดขีด..ทั้งรักทั้งแค้นพูดว่า
“ท่านปันใจให้คนอื่น..ท่านทำให้..หม่อมฉันแสนจะทุกข์สุดแสนจะหวงแหน..ท่านจงโอบกอดให้จิตหม่อมฉันได้อบอุ่น”

หลวงพ่อมองมาดวงตาดุราว..ดวงตาของเพชรฆาต..พูดเสียงดังว่า..”มึงเป็นใครมีดวงจิตลามกอัปรีย์..มึงไม่เห็นหรือว่ากูเป็นพระ..จิตใจมึงร่านราคะเกินแก่การฟังธรรมได้”

ร่างแม่ชีดิ้นรนเพื่อเข้าไปกอด..หลวงพ่อลุกขึ้นยืนพูดว่า..”มึงมันน่าเวทนาเหลือเกิน..มึงปล่อยให้ความอยาก..คุมจิตจนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี..กูจะโปรดมึงสักครั้งให้หลุดพ้นจากห่วงเวทนา”
..ท่านยื่นผ้ามาให้จับ..
ท่านบริกรรมภาษาบาลี

“อะนิจจา วะตะสังขาราอุปปาทะวะยะธัมมิโน”
“อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติเตสัง วูปะสะโมสุโขฯ”

ท่านว่า..”สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง..การเข้าไปสงบระงับสังขารได้ เป็นความสุข”

จิตดวงนี้หลุดพ้นทันทีที่หลวงพ่อพูดจบ

ท่านเรียกแม่ชี..”ถามว่าเป็นไงบ้าง”
แม่ชีว่า..”แม่ชีได้ยินและรู้ตัวทุกอย่างแต่ควบคุมการพูดไม่ได้..ควบคุมกายไม่ได้..ควบคุมอารมณ์ไม่ได้”

ท่านว่า “เขาให้เรียนรู้..ปริศนาธรรมผ่านกายมึง..มึงโชคดีที่เขาเลือกใช้กายมึงถ่ายทอดความทุกข์”

แม่ชีถามท่านว่า..”ถ้าอย่างนี้เวลาเราพบเจอคนที่มีสัญญากับเรา..เราควรทำอย่างไร”..

ท่านว่า..”ถ้ามึงพบเจอสัญญาให้มึงนึกว่า..ไฟกองใหญ่ที่กำลังลุกโชนด้วยความร้อน..กำลังพร้อมจะเผามึงทั้งเป็น..มึงต้องหักห้ามจิตของมึง..ให้หลุดพ้นมึงนึกเอาไว้”

“มีคนจับมึงโยนเข้าไปในไฟที่ลุกโชน..เมื่อมึงสัมผัสเปลวไฟ..มึงจะยังไม่ตายทันที..มึงจะทรมานจนกว่าความร้อนจะเข้าไปในหัวใจ..กายมึงจะงอดำก็ยังไม่ตาย..หัวใจมึงสุกเมื่อไหร่มึงถึงจะตาย”..

“โห..หลวงพ่อพูดซะเห็นภาพ..น่ากลัวจัง”

ท่านถามพระว่าทุกคนเห็นใช่มั้ยว่า..”สมาธิมันสื่อกับจิตที่ทุกข์สาหัสเพราะอะไร..ให้ทุกคนเรียนรู้ไปเรื่อยๆ..ชีใหญ่มันกล้า..มันมีสมาธิแน่วแน่..ถ่ายทอดธรรมมะได้แบบนี้
น้อยคนที่จะทำได้”

———————————-

คนมาบวชที่วัดเขาอิติสุคโต..ป่วยไม่มีสาเหตุ..หลวงพ่อพานั่งกรรมฐานทุกคืน..
อาการป่วยเริ่มดีขึ้นจนหายกลับบ้านได้

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น..แม่คนป่วยที่เพิ่งกลับไปโทรมาบอกว่าลูกสาวป่วยอีก..ตัวซีดเย็นเป็นน้ำแข็ง..เดินตัวแข็ง

หลวงพ่อส่งแม่ชีไปก่อน..พอเข้าไปในบ้านปะทะอะไรบางอย่าง..แต่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร..นั่งรถกลับถึงวัด..ทางบ้านคนป่วย
..บอกว่าลูกสาวเป็นมากขึ้นจะตายแล้ว..

หลวงพ่อให้พระขึ้นรถไปด้วย..พอไปถึงบ้านคนป่วย..หลวงพ่อเดินไปจับ..ม่าน..จับสิ่งของทุกอย่าง..แล้วมาหยุดที่มีดอันเล็กๆเป็นทองเหลืองมีปลอกมีด..ท่านว่าเจอและอยู่นี่เอง

ท่านส่งมีดให้แม่ชี..พอแม่ชีดึงมีดออกพลังงานบางอย่างพุ่งเข้ามาที่กายแม่ชีทันที

กายแม่ชีขยับเป็นท่านั่งเอามือเท้ามาข้างหน้า..ลิ้นไหลออกมายาว..น้ำลายไหลตลอด

เห็บหมาวิ่งจากตัวแม่ชี..เห็นกันแบบตาเนื้อ..

วิญญานหมามาเข้าร่าง สื่อบอกเรื่องถูกคนมีวิชชา..ขังไว้ด้วยอาคม..วิญญานไม่สามารถไปเกิดได้..คนมีอวิชชา..เอาเลือดหมาไปเขียนชื่อคนที่จะทำคุณไสย์ใส่..มีชื่อใครก็จะปล่อยจิตหมาตัวนี้ไปกัด..พอกัดเสร็จก็เรียกจิตกลับมาขังไว้ในมีดเล่มนี้..

คนที่ถูกกัดจะเป็นแผลในร่างกายที่เรียกว่า “ถูกของไม่นานก็จะตาย”

หมาบอกผ่านกายแม่ชีว่า..มีลูกหมาอยู่ในท้องอยากไปผุดไปเกิด หลวงพ่อให้พระที่ไปด้วยแผ่เมตตาให้..แต่หมาไม่ไปบอกว่าไปไม่ได้..ตอนคลอดลูกก่อน..

หลวงพ่อสวดมนต์นั่งสมาธิสักครู่ก็พากันกลับวัด..หมาอาศัยกายแม่ชีมาถึงวัดก็วิ่งขึ้นโบสถ์แบบว่องไว..แม่ชีหลับตานั่งสมาธิ
อาการทางกาย..เกิดสภาวะที่ท้องพองโต..ช่วงที่ลมหายใจผ่อนออก..

เกิดอัศจรรย์คลอดลูกหมาออกมาตัวหนึ่ง..เห็นหมาสีดำเอาปากกัดลูกวางลง..หันเอาลิ้นมาเลี่ยหน้าแม่ชี..แล้วก็เดินหายไป

เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น..มีเห็บเดินตามตัว..ออกมาให้ทุกคนเห็นแบบ..ไม่เห็นเองก็ไม่เชื่อ

วันรุ่งขึ้นมีคนเอาหมามาถวายหลวงพ่อตัวหนึ่งสีน้ำตาล..ตัวสูงเหมือนที่เห็นในสมาธิ

ถามหลวงพ่อว่า..เพราะอะไรถึงต้องถูกจับขังไว้..ท่านว่ามีดเล่มนี้คนมีอวิชชาใช้ฆ่าหมาดำ..จิดดวงสุดท้ายถูกกำกับด้วยกำลังสมาธิ..จึงทำให้หมาไปเกิดไม่ได้..

คนที่ป่วยอาจเคยจ้างวาน..คนมีวิชชาทำคุณไสย์ใส่ใครไว้..จึงทำให้ชาตินี้ต้องรับกรรมป่วยเหมือนจะตายแต่ไม่ตาย..

ท่านว่า”ใช้วิชชาที่มีในทางลบ..แต่ก็ดีมากที่ทำให้เห็นว่า..กายนี้ไม่ใช่ของเรา..เวลามีอะไรเกิดขึ้นคนไม่มีปัญญา..จะไม่ยึดมั่นว่าเป็นของเรา..เหมือนที่หมามาสิงมึงนั่นแหละ”

สุดยอดจริงๆเลยหลวงพ่อ..กายนี้ไม่ใช่ของของเรา..ใครจะสอนให้เห็นภาพได้ขนาดนี้

ท่านว่า “มึงชอบนักฤทธิ์เดช..ชอบออกไปนักเซ่นซ่านไปทั่ว..มึงอย่าคิดนะว่ากูไม่รู้”..ท่านหัวเราะ

แม่ชีทึ่งมาก..สมถะกรรมฐาน
———————————

คืนวันแรม 15 ค่ำ เดือน 5 หลวงพ่อพานั่งกรรมฐานที่หลังโบสถ์..ท่านให้แม่ชีนั่งข้างล่าง ท่านนั่งบนหินก้อนใหญ่..พระและสามเณรแม่ชีเป็นร้อยรูปนั่งล้อมเป็นพระจันทร์ครึ่งดวง..พอขึ้นกองกรรมฐานเสร็จท่านให้ทุกคนหลับตา..

ท่านว่า..”ชีใหญ่ทำสมาธิให้เหมือนสว่านเจาะใต้โบถส์ไป..ไปเดี๋ยวนี้”

..อึดใจเดียวท่านถามเสียงดังว่า..”ชีใหญ่มึงเห็นอะไรบ้าง..บอกหลวงพ่อมา”

“เห็นจรเข้ตัวใหญ่อยู่ข้างศาลา”
“เห็นแม่ทัพนายกองเต็มหน้าวัด..ใส่หมวกใส่สนับ..พกมีดพกดาบ..อยู่หน้ามหาราชเข้าวัดไม่ได้”
..หลวงพ่อให้ถามว่า..”ทำไมถึงเข้าวัดไม่ได้..

บอกว่า “มันมืด..อยากได้แสงตะเกียง..ให้ช่วยจุดตะเกียงไว้จะพักรบ
ที่หน้าวัด”

หลวงพ่อให้ทุกคนถอนสมาธิ..ตรวจน้ำให้แม่ทัพนายกองหัวหมู่ขุนพลที่เคยกู้ชาติกู้แผ่นดิน..เสร็จก็แยกย้ายกันพักผ่อน..
หลวงพ่อว่า..”พระกับชีใหญ่ไปจุดตะเกียงแขวนไว้ที่ต้นไม้..แล้วกลับมานอน”

เช้าตรู่วันขึ้น 1 ค่ำเดือน 6 มีคนมาที่วัดโดยไม่ได้นัดหมายเพื่อทอดผ้าป่า..คนมาจากหลายจังหวัดทำกับข้าวหุงข้าวเลี้ยงเสร็จ ทอดผ้าป่าพร้อมกัน..ผ้าป่าวันนั้นมีทั้งหมด 26 กอง..

..ได้เงินทอดผ้าป่าทั้งหมด 700,000 บาท..

บ่ายแก่ๆของวันนั้น..มีคนอุ้มไก่ชนมาถวายหลวงพ่อโดยไม่ได้นัดหมายเป็นสิบตัว…

หลวงพ่อให้แม่ชี..ไปซื้อซุ่มมาครอบไก่ชน..

ตั้งแต่วันนั้นเรื่อยมา..มีคนมาปล่อยไก่ชน..ไก่แจ้ที่วัดเป็นร้อยๆตัว..หลวงพ่อว่า
“นักรบทั้งนั้น..เกิดมาเพื่อสู้กันจริงๆ”

ท่านว่า..”มึงคิดอะไรกูรู้นะ..มึงวางความสงสัยของมึงลงไป..มึงเป็นคนเห็นแม่ทัพนายกองมาพักรบที่นี่..คนเอาไก่ชนมาปล่อยเยอะแยะ..กูไม่ต้องจับมันตีกันหรอก อย่างไงมันก็ตีกันตั้งแต่เป็นลูกเจี๊ยบ”

“กูก็แค่ทำหน้าที่เลี้ยงมัน..กูว่า..กูจะให้มันชนกัน..ตัวไหนแพ้ก็เลี้ยงไว้ตัวไหนชนะก็เลี้ยงไว้..ถึงเวลากูจะเพาะพันธุ์พวกมันขาย..เอาเงินมาทอดกฐินสร้างวัด”

ไก่ชน..มากมาย..หลายร้อยตัว..ต้องฉีดยาต้องไล่ไรไก่..ใครมีกรรมกับนักรบก็ต้องรักษาไก่..ฉีดยาไก่.มืดค่ำไก่ขึ้นรังนอน..เดินฉีดยาไก่ใช้หนี้กรรมตามวาระ

ไม่มีคำอธิบายจากหลวงพ่อ..ไม่มีคำตอบจากท่านเพราะไม่มีใครกล้าถาม..

..เมื่อไม่มีคำถาม..ก็ไม่มีคำตอบ..ข้าวเปลือกเลี้ยงไก่ ถูกสั่งซื้อเป็นเกวียนเพื่อเลี้ยงไก่..จำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แม่ชีไม่สงสัยหลวงพ่อเลย..สิ้นสงสัยเพราะสมาธิที่หลวงพ่อให้นั่งทำจิตให้เป็นสว่าน เจาะภูเขาทั้งลูกไปโผล่ที่หน้าวัดมันไม่มีคำบรรยาย..

ท่านปั้นจระเข้ตัวใหญ่ไว้ข้างศาลา..ท่านให้แม่ชีปั้นนางเงือกนั่งอยู่ใกล้ๆกัน..มีปลาไหลที่พระช่วยกันปั้น..เต่าอีกตัวทีอยู่รวมกันข้างศาลา..แมลงป่องชูหาง

วันหนึ่งท่านถามแม่ชีว่า..”บ่อข้างศาลามีความหมายอะไร”..โยมมาพบหลวงพ่อ..ตั้งแต่วันนั้น..ไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้อีกเลย

แม่ชีมีคำตอบให้หลวงพ่อว่า..”บ่อนี้เป็น
บ่อขันธ์ 5″

นางเงือก..คือ..รูป ได้แก่ ส่วนที่ผสมกันของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เช่น ผม หนัง กระดูก โลหิต

จระเข้..คือ..เวทนา ได้แก่ ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ

แมลงป่อง..คือ..สัญญา..ได้แก่ จำสิ่งที่ได้รับและรู้สึกนั้นๆ

เต่า..คือ..สังขาร ได้แก่ ระบบคิดปรุงแต่ง แยกแยะสิ่งที่รับรู้สึกและจำได้นั้นๆ

ปลาไหล..คือ..วิญญาณ ได้แก่ ระบบรู้สิ่งนั้นๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

บางเรื่อง..บางวัน..ที่หลวงพ่อปรีชาสอนธรรม นำเจริญวิปัสสนากรรมฐาน..เรื่องที่จำได้ไม่เคยลืม…ทั้งอภิธรรมและวิปัสสนากรรมฐาน

คนที่มาพบหลวงพ่อ..มาขอให้หลวงพ่อช่วย
มีพี่สาวถูกผีเข้า..นอนอยู่กับพ่อที่บ้าน..พ่อต้องป้อนข้าวป้อนน้ำ..

หลวงพ่อเรียกแม่ชีใหญ่เข้าไปพบให้เอาสายสินญ์ไปหนึ่งเส้น..พระหนึ่งองค์ใส่มือแม่ชีมา..

ท่านว่า..”เอาพระใส่มือ..มันก่อนแล้วค่อย..เอาสายสินญ์คล้องคอ..คล้องคอได้ค่อยพามาวัด”

แม่ชีสามองค์เดินทางไปเขาตะเกียบ..ถึงบ้านแล้วหันหน้ามองกัน..แต่ไม่กลัว..เดินเข้าไปถึงเตียงนอน..ผียกมือไหว้..ถามว่า “แม่ชีมาจากไหนกันหรือจ๊ะ”..ไม่ตอบผี..
แม่ชีใหญ่จับมือผีแน่น..ผีพูดเสียงใหญ่..”มึงอย่ามายุ่งกับกู”…

ตกใจสุดขีด แม่ชีสามคนวิ่ง..ออกจากบ้านพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย..

ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย..นึกในใจว่า การเป็นแม่ชีมันน่ากลัวจริงๆเลยโอ้ย..เอาใหม่

นั่งสมาธิไปพักนึง..เข้าไปอีกครั้ง..ผีกำลังหลับตา..เอาสายสินญ์คล้องคอผีนิ่งสงบ..เอาพระใส่มือเสร็จ บอกให้ลุกผีก็ไม่ขัดขืน

นั่งรถไปวัดกับผี..ถึงวัด..พากันลงเอาผีไปถวายหลวงพ่อ..หลวงพ่อหัวเราะ5555555

“มึงวิ่งพร้อมกันดีนะประตูไม่พัง..อีห่ากูนึกว่ามึงแน่..5555”

แม่ชีไปนั่งหลังหลวงพ่อทำสมาธิได้ยินหลวงพ่อถามผีว่า
“..มึงชื่ออะไร”
“ชื่อแถบจ้าหลวงพ่อ”
“มึงมาอยู่กับเค้าทำไม”

ผีไม่ตอบ..ผีถามหลวงพ่อว่า..
“หลวงพ่อเจ้าขา..หลวงพ่อเกิดปีอะไร”
“อ๋อ..กูเกิดปีขาล..วันอาทิตย์ มึงจะทำไม”
ผีว่า”เดี๋ยวกำลังดูดวงให้”
ผีเงยหน้ามองหลวงพ่อแล้วพูดว่า
“อือ..หือ ..อายุ 60 แล้วยังหนุ่มอยู่เลย”

เสียงหัวเราะพร้อมกันทั้งศาลา555
หลวงพ่อว่า..”มึงหลอกกู5555″

>>อยู่กับผู้ประเสริฐเป็นสุขทุกเมื่อ<<
ท่านให้เรียนรู้อะไรก็ไป..ถูกขัดเกลาทุกวัน คิดเสมอว่า..สิ่งที่ท่านให้..ไม่มีขายในโลกนี้..บางเวลาหมดกำลังใจ..
..พอนึกถึงหลวงพ่อปรีชา..กำลังก็มา..

..แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..