อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่18—-ชีวิตเตี่ย—-

—-ชีวิตเตี่ย—-

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่18

..วันเข้าพรรษามาถึง..แม่ชีเรียนหลวงพ่อว่า
..จะจัดพิธีแห่เทียน..หลวงพ่ออนุญาต..
..จัดแห่เทียนปีแรกสนุกมาก..คนหลายพันคน..เดินไปวงเวียนใหญ่..กราบสมเด็จพระเจ้าตากสิน..
..เดินข้ามสะพานพุทธไปกราบพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก..ให้ท่านอนุโมทนาแล้วเดินกลับวัด..คนเดินอุ้มผ้าอาบน้ำฝน..เดินเป็นสายขาวเต็มถนน..เดินสองแผ่นดิน

..สิงโตมังกรตีกลองลั่นวัด..สงสารสิงโตเห็นเต้นขอเงินอยู่ที่วงเวียนใหญ่ ..แม่ชีจ้างให้มาเต้นวันเข้าพรรษา..เด็กๆแม่ชีเต้นสิงโต..แลกตัง..วันตรุษจีน

เสร็จงานก็..เข้าสู่โหมดปรกติ..ทำงานเทศน์พูดคุยกับโยม..

..ป้าตุ๊มาเยี่ยม..ถามว่า..ทำกับข้าวเลี้ยงคนไหวมั้ย..ป้าตุ๊อาสาทำอาหาร..มีคนเข้ามาเป็นจิตอาสาช่วยงานในครัว..วัดไม่มีโรงครัวทำอาหารข้างโบสถ์..มีปัญหาทุกวันเรื่องคนในครัวแต่ก็ปล่อยให้ป้าตุ๊ทำ..

..ป้าตุ๊เป็นคนตรงและแรง..ได้ยินอะไรก็สวนทันที..ไม่เป็นไร..ก็ลองกันซักพัก..

เงินที่ได้จากโยมทำบุญอยู่ในย่ามทั้งหมด..ส่งให้วัดเจ้าคุณเล็กดูแลสร้างศาลาหน้าพระปรางค์..
อะไรที่จำเป็น..ทางวัดจัดการ..ไม่เคยที่จะคิดเอาเงินที่คนทำบุญมาเป็นของตัวเอง..

..ออกพรรษาทอดกฐิน..กราบหลวงพ่อเจ้าอาวาสว่า..”หลวงพ่ออย่าทอดกฐินตรงกับวัดเขาอิติสุคโตนะคะ..เพราะถ้าตรงกัน..แม่ชีต้องไปวัดเขาอิติสุคโต”..

พ.ศ.2546 เป็นปีที่โด่งดังมากเรื่องกรรม..คนมาบวชเป็นพันๆคน..หนังสือเกิดแต่กรรมติดอันดับ 1 สามปี..

 

เรื่องเตี่ยเป็นมะเร็งที่กระเพาะปัสสาวะ..

แอบกลับไปหาหลวงพ่อปรีชาเรื่องเตี่ยและเรื่องคนที่ไหลมาไม่ขาดสาย

หลวงพ่อปรีชาท่านว่า..”เตี่ยคงอยู่ได้อีกไม่นานให้ดูแลกันไปจนกว่าจะจบ..ส่วนเรื่องคนที่มาหาก็ให้สู้บ้างถอยบ้าง..และต้องระวังคนในวัดที่ไม่ปรารถนาดี”..ท่านให้กำลังใจ..

 

กลับมานั่งคุยกับเตี่ยในกุฎิ..

“ถ้าหมอเขาจะผ่าตัดเตี่ยอนุญาตหรือเปล่า เผื่อมีเรื่องผ่าตัด..ฉันคงไม่กล้าทำอะไร..ถ้าเตี่ยไม่อนุญาต”
เตี่ยว่า “ไม่ต้องผ่าตัด..เตี่ยไม่อนุญาตเกิดมาต้องตายทุกคน..ผ่ามันก็ไม่หาย”
“เตี่ยไม่ยืนค้ำฟ้าหรอกแม่ชี..ถึงเวลาเตี่ยก็ไป..เตี่ยไม่กลัวตายไม่ต้องกังวล”

เรื่องที่แม่ชีรับผิดชอบก็ยัง..ทำตามหน้าที่นั่งสมาธิช่วงเช้าทุกวัน..เฮี่ยโส่ยมานั่งด้วยเป็นประจำ..ถึงเวลาก็ไปเทศน์

..อธิษฐานให้เตี่ยว่า “ถ้าบุญที่ฉันทำมามีจริง..ขอให้บุญนี้ส่งผลให้เตี่ยอย่ามีความเจ็บปวดใดๆเลย”..

เตี่ยต้องฉายแสงให้คีโม 50 ครั้ง ที่โรงพยาบาลศิริราช..พี่รุจ..พี่เงาะ..ผลัดกันพาเตี่ยไปโรงพยาบาล..เตี่ยไม่แพ้แสงรังสี..ไม่ปวดมะเร็ง..

..คืนวันหนึ่ง..หลังจากเทศน์เสร็จ..เข้ากุฎิ..เห็นเตี่ยนอนซุกอยู่ที่มุมห้อง..บอกกับเตี่ยว่า “เตี่ยไปโรงพยาบาลเถอะนะ..โรงพยาบาล..มีหมอ..มีพยาบาลดูแล..แล้วให้พี่เงาะไปเป็นเพื่อนดูแล”

หลวงพ่อเจ้าอาวาสไปเยี่ยม..ไปสวดมนต์ให้เตี่ยที่โรงพยาบาล..พี่เงาะเข็นรถลงไปชั้นล่างให้เตี่ยใส่บาตรทุกวัน..

..เตี่ยนอนโรงพยาบาลได้หนึ่งเดือนเต็ม..น้องชายส่งข่าว..เตี่ยความดันตก..ไปเยี่ยมเตี่ยตอนหัวค่ำยังคุยกันดี..น้องชายบอกว่าไม่เกินคืนนี้..เตี่ยคงต้องไป..บอกน้องชายว่า “นอนเฝ้าเตี่ยด้วยนะ..แม่ชีกลับวัดก่อน”

พี่แหววเจ้าของโรงสีโทรมาว่า..”แม่เรื่องค่าโรงพยาบาล..พี่แหววขอทำบุญกับก๋ง”

..วันรุ่งขึ้นเมื่อไปถึงห้องเตี่ย..เสียงสวดมนต์ดังออกมา..พี่ศิริพรกำลังจับมือก๋งสวดมนต์เจ้าแม่กวนอิมให้ก๋งฟัง..ก๋งกำลังหอบอย่างหนัก..แม่ชีพูดว่า..เตี่ยแม่ชีมาแล้วเตี่ยได้ยินมั้ย..แม่ชีจะสมาทานศีล 5..เตี่ยว่าตามในใจนะ..

..แม่ชีเริ่มตั้งนะโม 3 จบ สวดไตรสรณะคม 9 ศีล 5 เริ่มที่ละข้อ..ให้เตี่ยว่าตามในใจพอครบ 5 ข้อมือเตี่ยหล่นออกจากมือแม่ชีทันที..

..เก็บความเสียใจไม่ให้ใครเห็น..
..เริ่มคิดถึงเรื่องความรักที่เตี่ยมีให้..
..ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเตี่ยเป็นตัวอย่างที่ดี..

..ไม่เคยซ้ำเติม..ให้กำลังใจตลอด..ไม่ไหวพักก่อน..อย่าคิดเยอะ..เตี่ยไม่ยืนค้ำฟ้าถึงเวลาเตี่ยก็ไป..เตี่ยไม่รำคาญ..

..ชีวิตของฉันทำร้ายเตี่ยตลอด..
..ฉันอยู่กับใครก็ล่วงเกินเตี่ยทุกคน..มาอยู่วัด..ก็มีคนที่เข้าล่วงเกินขับไล่ถึงในกุฎิ..
..ฉันกราบขอโทษเตี่ยเป็นครั้งสุดท้าย..

..เตี่ยมีอาชีพรับจ้างฉายภาพยนต์..
..เตี่ยมีเรือยนต์รับส่งคนจากอัมพวาไปราชบุรี..รับส่งคนในแม่น้ำแม่กลองเป็น
อาชีพ..ทำอู่ซ่อมเรือ..ที่มาขึ้นคาน..รับจ้างซ่อมเรือทุกชนิด..รับจ้างทำงานในโรงฆ่าสัตว์..เตี่ยกับแม่ไม่เคยหยุดเรื่องทำบุญใส่บาตร..

..รับจ้างฉายภาพยนต์เลี้ยงลูก..บั้นปลายชีวิต..ฉายแสง 50 ครั้ง..
..เรื่องของลูกที่ถูกเลี้ยงมาด้วยภาพยนต์..มีครบทุกรสชาติ..เป็นนางเอก..เป็นนางร้าย..เป็นผู้ร้าย..เป็นตัวโกง..

เตี่ยรับจ้างฉายภาพยนต์กลางแปลงตามวัดที่หาภาพยนต์มาฉายให้คนดู..เพื่อให้คนมาทำบุญปิดทอง..มีมหรสพลิเก..ประกวดร้องเพลง..

เตี่ยฉายหนังแบบเรื่องนี้มีสี่ม้วน..
เตี่ยก็ฉายสามม้วน..คนดูก็รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง..ฉายให้ดูฟรี..ก็แค่โห่

บางงานมีการวิ่งหนังเพราะรับงานสองวัด..ฉายได้ครึ่งม้วนก็ต้องส่งไปอีกวัดเพื่อฉายเรื่องเดียวกัน..ฉายหนังไม่ครบม้วน

แต่ความจริงเตี่ยไม่อยากฉายทุกม้วนเพราะต้องใช้เวลาถึงสว่าง..กลับบ้านเร็ว..ก็ไม่ต้องแจวเรือทวนน้ำ..เครื่องฉายหนังใส่เรือแจวทั้งไปและกลับ..คือความรับผิดชอบของเตี่ย
..แม่ชีเป็นคนที่สนิทกับเตี่ยที่สุด..

เตี่ยฉายหนัง..แม่ชีขายอ้อยขวั้น..ถั่วต้มที่แม่เตรียมให้ทุกงานที่เตี่ยไป..ขายเสร็จก็นอนรอบ้าง..ช่วยกลอฟิมล์หนังที่ฉายแล้ว

เตี่ยฉายหนังไหม้บ่อยมาก..ทำให้คนดูชอบโห่..ถามเตี่ยว่า..ทำไมหนังมันไหม้บ่อย..เตี่ยว่าเตี่ยตั้งใจให้มันไหม้..เวลาต่อเสร็จก็เปลี่ยนม้วนได้เลย

พอมารับการรักษาฉายแสงครบ 50 ครั้ง..จบตำนานชีวิตทันที

–เรื่องกรรมเป็นเรื่องน่าศึกษาที่สุด–

..หลวงพ่อเจ้าอาวาสเพิ่งจัดทำบุญวันเกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2548 วันเกิดหลวงพ่อเจ้าอาวาส..

..วันที่ 6 กุมภาพันธ์2548 วันตายของเตี่ย..

..ศาลาหน้าพระปราค์เพิ่งสร้างเสร็จ..หลวงพ่อเจ้าอาวาสให้เอาศพเตี่ยไว้ที่ศาลาใหม่สวดศพ 7 วันเผา..

..หลวงพ่อจัดงานศพให้อย่างสมเกียรติตั้งเมรุลอยเก้ายอด..ขอไฟพระราชทานเพลิงศพกรณีพิเศษ..หลวงพ่อปรีชามาเป็นเจ้าภาพสวด 1 คืน

ญาติพี่น้องของแม่..และคนอัมพวามางานเยอะมาก สมเด็จเกี่ยววัดสระเกศมาเป็นประธานวางดอกไม้จันท์..

..แม่ชีได้แสดงความกตัญญูกับเตี่ยครั้งสุดท้าย..คือ..ได้ให้เตี่ยสมาทานศีล 5 เท่านั้น..

..ตลอดชีวิต..ไม่เคยมีโอกาสแม้แต่จะดูแลยามเจ็บป่วย..ใครๆคงคิดว่า แม่ชีมีเงินเยอะ..เปล่าเลย..เงินจะรักษาเตี่ยยังต้องให้ลูกศิษย์จัดการให้ทุกบาท..ทุกสตางค์..

..ไม่เคยเอาเงินที่เขาทำบุญ..มาให้ลูกหลานหรือพ่อแม่..จนลูกศิษย์บางคนถามว่า..
“แม่ให้วัดหมดเลยหรือ”
“ให้หมดเลยค่ะ..จะเก็บเอาไว้ทำไม..เขาทำบุญมา.แม่ไม่ได้อยากได้เงิน..แม่อยากทำงาน”

..หลังจากงานศพเตี่ยผ่านไป..ได้พบลูกชายคนที่ 4..เข้ามาหาที่วัด..ก็คุยกันว่าให้มาช่วยแม่ที่ห้องลงทะเบียนแล้วไปเรียน ก.ศ.น.

–แม่ชีถามลูกชายว่า–

“ยุ่งไปไหนมา..ยุ่งรู้มั้ยแม่ตามหาจนถอดใจ”
“แม่..ยุ่งรับจ้างเข็นผักอยู่ที่ปากคลองตลาด”
“อ้าว..แม่ก็ไปซื้อผักที่ปากคลองตลาด
แล้วยุ่งไม่รู้หรือว่าแม่อยู่ที่นี่”
“ไม่รู้เลยเห็นแม่ในโทรทัศน์มีคนบอกว่า
นี่แหละแม่ยุ่ง..ยุ่งก็เลยมาหา”

..ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย..แม่ชีอยู่วัดพิชัยญาติลูกเข็นผักอยู่ปากคลองตลาด..

..เรื่องชุมชนหลังวัด..มีเจ้าหน้าที่มาขับไล่ให้ออกจากหลังวัดและบ้านที่ปลูกอยู่หน้าวัด
..ในที่สุด..หน้าวัดก็โล่งหลังวัดก็เรียบไปกันหมด..

–สร้างรั้ววัดพิชยญาติการาม–

“รั้ววัดดูไม่สวยนะคะหลวงพ่อสร้างใหม่ได้มั้ย”
“แกจะสร้างให้เหรอ”
“ค่ะหลวงพ่อ”

วันรุ่งขึ้นให้ช่างช่วยกันยกเหล็กรั้วเก่าออก
ทุบปูนออกเคลียพื้นเพื่อสร้างรั้วใหม่..รั้วสร้างขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน..เหลือไม่มาก
ก็จะใส่แสตนเลส..

เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ..
แม่ชีกำลังเร่งให้ช่างสร้าง..
เมื่อพบกันเจ้าหน้าที่พูดไม่ดี..แม่ชีสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ..
แม่ชีถามตรงไหน..ที่สร้างอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่ถนน..ไม่ใช่คลองแค่อิฐก้อนเดียว..ก็จะมาหาเรื่อง

 

เจ้าหน้าที่เดินไปชี้..แม่ชีเดินตามพอได้จังหวะจับคอเจ้าหน้าที่กดลงไปพูดว่า..
“มึงดู..ฝั่งตรงข้ามสร้างค้ำยันลงมาถึงกลางคลอง..ทำไม..มึงไม่ไปจับเขา”

เจ้าหน้าที่ตกใจสุดขีด..พยายามป้องกันตัวแต่แม่ชีพูดว่า..”ใครไปแจ้งมึงมาตรวจสอบกู..กูไม่เคยคิดจะตายตรงนี้..แต่มึง..กูว่าไม่แน่”

เจ้าหน้าที่โกรธมากสั่งให้รื้อรั้วออกให้หมด..เวรกรรมจริงเจ้าหน้าที่คนนี้..
หลวงพ่อเจ้าอาวาสยืนมองมาที่แม่ชี..
แม่ชีสั่งรื้อเดี๋ยวนั้น..ทุบทิ้งให้หมด..

เจ้าหน้าที่จากไป..แม่ชีถามช่างว่า..คืนนี้ทำทั้งคืนรั้วเสร็จมั้ยให้ค่าแรงสามแรง..ช่างตอบตกลง..แม่ชีนั่งกรรมฐานดับความโกรธ

เช้ามืด..เดินไปดูรั้วเสร็จจริงๆด้วย..
คุณพรเพ็ญ เดชวิไลศรี..ถวายรั้วแสตนเลส..ช่างมาติดตั้งแบบเนรมิต..

เจ้าหน้าที่มาพบหลวงพ่อ..เรื่องแม่ชีทำร้าย..หลวงพ่อขอโทษเจ้าหน้าที่บอกว่า “อย่าไปถือสาแม่ชีคนนี้เลย
มันมาจากบ้านนอกไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร”
(บ้าๆบอๆมีเรื่องกับเขาไปทั่ว)

หลวงพ่อเจ้าอาวาสเรียกพบ..”แกนี่นะดีทุกเรื่อง..อย่าใจร้อนซิวะ..แกใจเย็นได้จะดีมาก”

..บางครั้งเราคิดว่า..เรากำลังทำดีที่สุด
ความจริงเราเอาเวลาทั้งหมดไปให้คนอื่น..โดยลืมนึกไปว่า..เตี่ยเขามีเวลา..เท่านี้..

>>สิ่งที่ผ่านมาแล้ว..แก้ไขอะไรไม่ได้แต่
อยากบอกคนอ่านว่า<<
“อย่าให้ความสำคัญกับคนอื่น”
“..จนลืมพ่อแม่ตัวเอง..”

..แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..