อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 13
..ความสุข..ความเบิกใจที่ได้อยู่ใกล้ชิด
หลวงพ่อ..สิ่งที่ท่านสอน..และทำให้ดูบางครั้งก็เข้าใจยาก..แต่รักเคารพท่านสุดชีวิต..
..ยิ่งด่า..ยิ่งรักหลวงพ่อ..เรารู้ว่า..เราได้อะไร..
–เมื่อนานวันจึงเข้าใจว่า–
..การชำระจิต..คือ..การอดทนต่อสิ่งที่เข้ามากระทบ..เมื่อกระทบแล้วมีปัญญา..
..ปล่อยวางเร็ว..ก็ไม่ปรุงแต่ง..ท่านมีวิธีที่แยบยล..
..อยู่ๆก็ด่า..แล้วดูทุกคนว่ามีอารมณ์ร่วมหรือเปล่า..ถ้ามีอารมณ์ร่วม..เดี๋ยวท่านก็ไปพูดดีกับคนที่ท่านด่า..เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
..ท่านกำลังสอน..ไม่ให้เรามองความผิดผู้อื่น..
..ถ้าคิดแทนท่าน..เราก็จะร่วมโกรธคนนี้ไปด้วย..บางทีท่านก็ด่าเราให้คนอื่นฟัง..
..คนฟังก็เกลียดเราด้วย..ยังไม่มีปัญญา..ก็รับกรรมกันไป..ตามเหตุปัจจัย..
..มีวันหนึ่งกำลังจะเทศน์ในศาลา..ท่านบอกพระมาว่า..ไปบอกแม่ชีใหญ่เร็วๆ..ให้มันใส่ใส่ชฎาเทศน์..พระลงมาบอกทันที..แม่ชีใหญ่..หลวงพ่อให้ใส่ชฎาแล้วค่อยเทศน์..
..เราไม่ทำตาม..เพราะเราไม่ได้รำละคร…
..เรากำลังจะเทศน์พระธรรมของพระพุทธเจ้า..พระเห็นไม่ทำตาม..ก็คงคิดแทน..แล้วแต่ท่านเราทำหน้าที่ของเราให้..ดีที่สุดก็พอ..
..ท่านเคยพูดว่า..ถ้ามึงได้ยินกูพูด..มึงก็ต้องใช้ปัญญา..กูเชื่อว่าคนอย่างมึง..มี..ปัญญา..
..ถึงแม้ว่า..ท่านเป็นอาจารย์..ก็ไม่ให้เชื่อ..
..เราพลาดมาแล้ว..บทเรียนที่หลวงพ่อให้..
..เวลาท่านพูดอะไร..เรามีหน้าที่ฟัง..
..ฟังอย่างเดียวเท่านั้น..ไม่ปรุงเพิ่ม..ไม่ใส่น้ำร้อน..ไม่ใส่น้ำเย็น..วางใจเป็นกลางไม่ใช่เรื่องของเรา..ไม่แบก..ไม่ซ้ำเติม..
..ใครจะโชคดีเท่าเรา..ได้พบผู้มีเมตตา..ขัดเกลาจนรู้สึกว่า..ถ้าเราไม่มีหลวงพ่อ..ให้โอกาส..เราคงมีความเห็นผิด..ที่ยาก..
..ยากแก่การแก้ไข..ไม่มีใครรู้เท่าตัวเรา..
..ชีวิตนี้กลัวอยู่สองเรื่อง..
..กลัวความเห็นผิด..เพราะความเห็นผิด..จะทำให้เราพาคนหลงทาง..หลงอวิชชา..
..กลัวเนรคุณผู้มีพระคุณ..เพราะเรารู้แก่ใจ..เราว่าเติบโตมาจากใครที่ให้โอกาส..
..ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต..ล้วนมาใช้กรรม..มาสร้างกรรม..ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว..
..คิดได้ก็แก้ไข..ไม่ได้..ปล่อยให้มันผ่านไป..
..ส่วนเรา..เจอแล้วให้เลย..ให้ทุกอย่าง
เพื่อเป็นข้อสอบ..สอบให้ผ่าน..
..ทำให้คนเกลียดมันง่ายมาก..อย่าทำเลยนะแม่ชีใหญ่..แต่ถ้าเขาเกลียด..ก็ต้องปล่อย..
..ถ้าเราอยู่..ท่ามกลางคนรัก..เราคงไม่รู้จักคำว่า..อดทน..
..ความดี..ต้องทำด้วยใจ..ใช้ใจทำ..
..ทำไปเรื่อยๆ..ไม่ต้องรอใคร..
..หนทางข้างหน้าต้องมี..ความดีเป็นทุน..
..ดูหลวงพ่อเป็นตัวอย่าง..ทั้งดุ..ทั้งด่า..
ในที่สุด..ลูกศิษย์ท่าน..ได้ดีทุกคน..
..มีแต่คนรักท่าน..แม้ตัวเราเอง..ก็รักท่าน..มีทั้งพระเดช..มีทั้งพระคุณ..
..ทุกปีต้องขึ้นเขาปฎิบัติธรรม 9 วัน..
..ขึ้นไปดูใจตนเอง..และแผ่เมตตาให้..
..เจ้าภาพที่มาทอดกฐิน..ท่านจะพาสวดมนต์ทำวัตรเช้า..ทำวัตรเย็น..นั่งสมาธิพร้อมกัน..
..หลังจากนั้นก็แยกย้าย..อิสระปฎิบัติกันเอง..ขึ้นเขาจะมีแต่เสียงหัวเราะ..ของหลวงพ่อและพวกเรา..มีความสุขอยู่บนเขา..น้ำไม่ต้องอาบ..กินข้าวหม้อเดียวกัน..
..พระหรือใคร..จะทำอะไร..ไม่ทำอะไร..
..ไม่ใช่เรื่องของเรา..เราทำเรื่องของเราดีกว่า..
..หุงข้าวใส่กระติก..รวมกับข้าวเพลที่เหลืออุ่น..
..ต้มน้ำร้อนใส่กาไว้..เผื่อใครขึ้นมา..จะได้ไม่อด..
..เสร็จ..นั่งกรรมฐาน..ถอนสมาธิ..หาฟืน
เอาไว้หุงข้าว..ทำกับข้าว..พรุ่งนี้..
..หาบุญทำทั้งวัน..อะไรก็ไม่แน่นอน..บุญแน่นอนที่สุด..
..การถูกฝึกอย่างเอาเป็นเอาตาย..คือที่มาของความอดทน..อดกลั้น..ไม่ใช่ไม่ยาก..
..มันยากมากที่ต้องอยู่..แบบมีสติตลอดเวลา..
..ไม่ถือ..ไม่พยาบาท..ให้อภัย..
..เราผ่านเรื่องทางโลกมาแบบผิดมนุษย์….
..โอกาสครั้งนี้..ถ้ามันจะพลาด..คงพลาดเพราะเวรกรรม..ไม่ก็คงหลงผิด..
..ไม่ว่าใคร..ไม่เอาอะไรทั้งนั้น..ไปให้สุดของการสอบ..เรื่องกรรมฐาน..
..ไม่แก้ตัว..ใครคิดอะไรก็เรื่องของเขา..
..เพราะทุกเรื่อง..อยู่ที่เราคนเดียว..
..ท่านจะคอยถาม..แม่ชีใหญ่เห็นอะไร..
..เรื่องที่บอกท่านคืนนี้..พรุ่งนี้ก็จะมีคนขึ้นมา..หมายถึง..เห็นนามธรรมและพบเจอรูปธรรม..
–เช้าวันหนึ่ง–
หลังจากถอนสมาธิ..ท่านถามว่า”เห็นอะไร”
ตอบท่านว่า..”เห็นดาวตกมาจากฟ้าแล้วเอามือจับได้”
ท่านถามว่า “ตอนกี่ทุ่ม”
บอกท่านว่า “สี่ทุ่มเป็นต้นไป”
ท่านว่า..”กูจะได้จับดาวแล้วคืนนี้”
..สวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จ..ปูเสื่อนั่งสมาธิรอมีความสุขที่สุดชีวิตนี้..
–สี่ทุ่ม..ฝนดาวตก–
..ตกลงมาเหมือนฝน..ตื่นเต้นมาก..ฝนตกไม่เปียก..อธิฐานว่า..ขอให้ข้าพเจ้าเข้ากระแสพระนิพพาน..
..หันไปที่หลวงพ่อ..ท่านมองเม็ดฝนที่ไม่ใช่น้ำ..เราเข้าสมาธิ..เห็นที่กายหลวงพ่อ..มีฝนดาวตกหมุนรอบตัวท่าน..อัศจรรย์แท้..
..เราแผ่เมตตาให้พ่อแม่พี่น้อง..ลูกหลาน..ให้มีส่วนในบุญ..ตลอดจนผู้ที่มาทำบุญทอดกฐินวัดเขาอิติสุคโตทุกผู้ทุกนาม..สลึงถึงแสนถึงล้านให้เจริญสุขและร่ำรวย..
–ท่านส่งสัณญาณบางอย่างมาให้–
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2544
“สิ้นศักดิ์..สูญศรี..ดีแล้วลูก”–โตนะ–
..หลวงพ่อปรีชา ธนวัฒโก..
–รออ่านหน้าต่อไปนะคะ–
..แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..