อ่านหนังสือวันละหน้า ปี 2020

..วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2563..

..อ่านหนังสือวันละหน้า ปี 2020..

==10 นาทีชีวิตเปลี่ยน==

++ตอน..บวชพระ++

..หนูร้องไห้ทำไม..
..ที่บ้านจะให้ผมไปช่วยทำงานที่บ้านครับ
แม่ชีช่วยผมด้วย ผมกลับไปก็ต้องทะเลาะกับพ่อแม่เหมือนเคย ผมทำอะไรก็โดนด่า ที่บ้านผมเป็นหนี้ธนาคารครับ

..หนูบวชพระได้มั้ยคะ บวชแล้วปฎิบัติธรรมตามแนวสติปัฎฐานสี่ อดทน บวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ บวชอย่างน้อย3ปี อุทิศให้ปู่ย่าตายาย และพ่อแม่พี่น้องทุกคน..

..แม่ชีครับบวชสามปีเลยหรือครับ อื่มมม..ก็ได้ครับผมจะบวช

–เวลาผ่านไป 1 ปี–

คุณแม่ของพระมากราบแม่ชี แล้วพูดว่า
“ตั้งแต่พระลูกชายบวชที่บ้านขายของดีมาก หนี้สินเริ่มเบาบาง แปลกมากค่ะแม่ชี ไม่น่าเชื่อ ทีแรกที่เขาบวชหนูก็ว่า”

“เอาตัวรอดคนเดียวไม่เห็นใจพ่อแม่”

“วันนี้หนูมาอนุโมทนากับพระลูกชายรู้สึกปลื้มใจค่ะ กราบขอบพระคุณแม่ชีมากค่ะ ที่ชี้แนะครอบครัวหนูกลับมารักกันอีกครั้ง”
…………………………………………………

==ขอคำปรึกษา==

แม่ชีครับผมไม่ได้ทำงานหนักอะไรเลย แต่ผมเหนื่อย ไม่มีแรง หลายวันแล้วครับ

พระแผ่เมตตาให้ปู่ย่าตายายให้ท่านอนุโมทนากับพระนะคะ แผ่เมตตาให้ขันธ์ 5 อุทิศให้ปู่ย่าตายาย นั่งกัมมัฎฐานเลยค่ะ

..สักครู่..

..หายแล้วครับ หายเลย..
…………………………………………………

==คำสนทนา==

“พระทราบมั้ย ว่า พระมีบุญกว่าแม่ชีถึง 200 เท่า เพียงท่านสำรวมระวัง ตาหู จมูก ลิ้นกายใจ ดูความเป็นไปของกายและจิต รักษาอารมณ์ของพระรัตนตรัยไว้ ดึงความกังวล ความขุ่นเคือง ความสงสัย ให้สิ้นไปด้วยการอโหสิกรรม”

“จิตของท่านจะเบา และมีกำลังมาก เมื่อจิตมีกำลังปัญญาก็จะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ว่านี่ คือปัญญา”

“เช่น ความเบื่อในการปฎิบัติที่แช่มานานเริ่มหายไป จิดเบิกบานที่จะนั่ง ยืน เดิน นอน มีสติมากขึ้น ความเวทนายังอยู่เหมือนเดิม แต่ปัญญาจะแยกจิตออกจากเวทนาได้”

“จะเจ็บ จะปวดตอนไหนบริเวณไหน ทุกส่วนของร่างกายปัญญาจะรู้เท่าทันทุกเวทนา ในร่างกายด้วยอุเบกขา ไม่เอาจิตไปจับเวทนาเลย แค่รับรู้เท่านั้น”

“ทุกลมหายใจในการเป็นพระสงฆ์ ท่านมีคุณของพระรัตนตรัยเป็นกำลัง เพราะเหตุนี้ แม่ชีถึงขอให้ท่านปฎิบัติธรรมตามแนวสติปัฎฐานสี่”

“การดำเนินชีวิตของท่านเป็นไปเพื่อ นาบุญในพระพุทธศาสนา จึงมีคุณกว่าแม่ชีมากมายหลายร้อยเท่า”

“ท่านไม่ต้องอ่านตำราอะไรหรอกค่ะ ลมหายใจเรานี่ล่ะคือครูใหญ่ ร่างกายเรานี่คือข้อสอบ ยิ่งไปอ่านยิ่งปรุงแต่ง”

“เราหาพระธรรมจากการกำหนดของเรานี่ล่ะ อย่าสนใจเรื่องอื่น สนใจเรื่องของจิตกับกายเราเท่านั้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่าได้อะไร แต่ท่านคือหนึ่งในคุณของพระรัตนตรัย ยิ่งใหญ่มากนะคะ”

“เวลาของพระกับแม่ชีมีเท่ากัน แต่เวลาของท่านสำคัญกว่าแม่ชีมาก”

“พ่อแม่ยังต้องกราบลูกที่เป็นพระ ท่านต้องอดทนสำรวมระวัง ให้จิตบริสุทธิ์ กายบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธิ์ เทวดาก็ต้องลงมากราบท่าน”

“พระต้องมีสตินะคะ ทุกครั้งที่พระเดินจงกลม ทำสมาธิสวดมนต์ภาวนา พ่อแม่และทุกคนในครอบครัวจะมีความสุขขึ้น”

“ตรงกันข้าม หากพระปล่อยใจให้ฟุ้งไปวันๆ ไม่ทำหน้าที่ของการเป็นพระสงฆ์ พ่อแม่และครอบครัวของพระจะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย”

“ความอดทน ความเพียรจะค่อยๆเผากรรม ที่เราเกิดมาทำให้พ่อแม่ต้องทุกข์ยาก ตั้งแต่เราเกิด พ่อแม่ทำกรรมอะไรไว้ พระทดแทนคุณพ่อแม่ได้ตอนปฎิบัตินี่ล่ะค่ะ”

“ชีวิตทางโลกมีแต่การปรุงแต่ง หามาใช้ไป กินนอน ทำงาน ดิ้นรน อยากได้ไม่จบ เอาชนะ ทะเลาะ ไม่พอใจ ผิดใจ ยึดมั่น มีมานะถือตัวถือตน หึงหวง อาฆาต พยาบาท”

“แทบหาโอกาสทดแทนคุณท่านไม่ได้เลย”

“เกิดมาแบบนี้ เวลาก็เท่ากัน
ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือสติ ก็แพ้ใจตลอด”

“ความทุกข์มันเกิดจากอารมณ์ ที่ปรุงแต่งให้อยากมีอยากเป็นตลอดเวลา
เหมือนโลกจะแตก เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย”

“แม่ชีขอกราบอนุโมทนากับพระด้วยนะคะ ขอให้แม่ชีมีส่วนในเนื้อนาบุญของท่านด้วยเถิด”
…………………………………………………

บทสนทนาเป็นกำลังใจให้พระสงฆ์รูปหนึ่งตั้งใจปฎิบัติธรรมอย่างเต็มที่

..ข้าพเจ้ามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต..

………………………………

..เมื่อมีความเข้าใจ..
..เส้นทางที่เดินไปข้างหน้าก็มีเป้าหมาย..

..ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..