อานิสงส์การถวายเทียนพรรษา
การถวายเทียนพรรษา ถวายหลอดไฟ และถวายตะเกียง ถวายประทีปโคมไฟ จัดว่าเป็นการให้แสงสว่าง มีอานิสงส์สูงสุดคือทำให้ได้ทิพพจักษุ (ตาทิพย์) เหมือนดังพระอนุรุทธะ ที่ได้รับยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่า พระอนุรุทธะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ด้านมีตาทิพย์ ดังประวัติอดีตชาติของท่านคือ
ท่านเกิดในสมัยพระปทุมตตระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ถวายมหาทานแด่พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์หมู่ใหญ่ ตลอด ๗ วัน แล้วตั้งความปรารถนาด้านเลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ด้านมีตาทิพย์
เมื่อพระพุทธเจ้านามว่า ปทุมุตระ เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว เจดีย์ทองบรรจุพระบรมสารีกธาตุสูงประมาณ ๗ โยชน์สร้างสำเร็จแล้ว ท่านจึงเข้าไปหาเหล่าภิกษุสงฆ์ แล้วถามภิกษุสงฆ์เหล่านั้นว่า ทำบุญด้วยอะไรจึงจะทำให้ได้ทิพยจักษุ
ภิกษุสงฆ์บอกว่าควรทำบุญด้วยประทีป ท่านจึงให้สร้างต้นประทีปหลายพันต้น และสร้างประทีปบริวาร ด้วยถ้วยกระเบื้องและถาดสัมริด นับจำนวนไม่ได้ ถวายเป็นพุทธบูชา และอธิษฐานว่า ผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้เกิดทิพยจักษุญาณ ท่านกระทำเช่นนี้จนตลอดชีวิต เมื่อหมดอายุขัยแล้ว ก็ท่องเที่ยวไปในภูมิเทวดาและภูมิมนุษย์ทั้งหลาย วนเวียนอยู่เช่นนั้นตลอดแสนกัป
ครั้งที่ท่านเกิดในสมัยของพระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้ถวายประทีปโคมไฟ แก่พระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เข้าฌานอยู่ที่ควงไม้ พระองค์ทรงรับแล้วห้อยไว้ที่ต้นไม้ ท่านได้ถวายไส้ตะเกียงน้ำมันพันหนึ่ง แด่พระพุทธองค์ด้วย ประทีปนั้นลุกโพลงอยู่ ๗ วันแล้วดับไปเอง อานิสงส์ครั้งนั้นท่านได้กล่าวว่า จะนับจะประมาณมิได้
ครั้นสมัยในกาลแห่งพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเกิดในเรือนคฤหบดีใกล้กรุงพาราณสี เมื่อพระศาสดาปรินิพพาน มหาชนได้สร้างพระเจดีย์ประมาณ ๑ โยชน์สำเร็จแล้ว ท่านก็ให้สร้างภาชนะสำริดจำนวนมาก บรรจุเนยใสจนเต็ม แล้ววางไส้ตะเกียงห่างกัน ๑ องคุลี ในภาชนะดังกล่าววางล้อมพระเจดีย์ให้เรียงชิดกันแล้วจุดไฟขึ้นถวายเป็นพุทธบูชา
แล้วให้สร้างภาชนะสำริดที่ใหญ่กว่าใส่เนยใสเต็ม จุดไส้ตะเกียงพันดวงรอบ ๆ ขอบปากภาชนะสำริดนั้น แล้วให้จุดไฟขึ้น ท่านเทินภาชนะสำริดไว้บนศีรษะ เดินประทักษิณเวียนบูชาเจดีย์ระยะทางโดยรอบประมาณ ๑ โยชน์ ตลอดคืนจนถึงเช้ารุ่ง เขาทำแต่กรรมดีจนตลอดชีวิต ครั้นสิ้นชีวิตแล้วบังเกิดในเทวโลก
อานิสงส์เพิ่มเติมเมื่อท่านได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยประทีปโคมไฟ
๑.เมื่อท่านเกิดเป็นเทวดา วิมานของท่านก็มีรัศมีรุ่งโรจน์ สว่างไสว
๒.ท่านได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์อยู่ ๒๘ ชาติ
๓.ท่านมีจักษุอันเป็นทิพย์สามารถมองเห็นได้ไกลหนึ่งโยชน์ ทั้งกลางวันและกลางคืน
๔.ท่านมีรัศมีกายแผ่ออกไปจากร่างประมาณ ๑ โยชน์ (๑๖ ก.ม.)
๕.ท่านได้เกิดเป็นจอมเทวดาเสวยราชสมบัติในเทวโลก ๓๐ กัป
..ขออนุโมทนา..สาธุ..สาธุ..สาธุ..
..ท่านใดสะดวกขอเชิญแห่เทียนร่วมกันนะคะ แห่ 10 รอบ..
..แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..
***ขอผู้ร่วมงานใส่ชุด โทนสีขาว – เหลืองมาร่วมงานแห่เทียนกันนะคะ***