ปัตจัตตัง ธรรมทาน-: หน้าที่ 10 :-

ปัตจัตตัง ธรรมทาน

หน้าที่10

ชีวิตเลือกได้

โกรธ โลภ หลงมีโทษข้ามภพข้ามชาติ
ทำให้ระวังในการมีชีวิต
กลัวตกนรกตั้งแต่ยังไม่ตาย

ความจริงแล้วฤทธิ์ก็ให้ข้อคิดเตือนใจได้เป็นอย่างดี เห็นความอัศจรรย์ของสวรรค์
เห็นความทุกข์ทรมานของนรก 
เลิกทำชั่วก็เพราะฤทธิ์

มีหลุด มีเผลอไม่ง่าย ไม่ง่ายที่จะไม่โกรธมีคนใส่ร้ายใส่โทษทั้งที่ไม่เคยทำร้ายใคร โต้ตอบว่าเป็นผู้ไม่ผิด
ทำให้อารมณ์ไหลเข้าไปโกรธอีก

เป็นคนพูดจริง..ไม่ชอบคนพูดไม่จริง
เป็นคนขยัน..ไม่ชอบคนขี้เกียจ
ทำบุญเอาหน้า ทำบุญอวดผู้อื่น
ทำแล้วโลภในบุญ
เห็นแต่ความผิดถูกจนรู้สึกเหนื่อย
ทำไมยังมีความคิดวนเวียนแต่เรื่องคนอื่น

กว่าจะรู้ว่านี่คือความมีมานะถือตัวถือตน
เสพอารมณ์ถูกผิดอยู่นานปี
เพราะคิดว่าเราดีกว่าเขา เราเหนือกว่าเขา

ทำอย่างไรหนอ? ทำอย่างไร?
ทำอย่างไร..สู้อย่างไรเพื่อชนะกิเลสในใจ
ความทุกข์ในใจทำให้เห็นโลกธรรม
อารมณ์ในใจยังติดอยู่ในโลกธรรมแปด 
ยังไม่ได้หลุดพ้นออกมาจากโลก

รูป รส กลิ่น เสียง
 กายสัมผัส อารมณ์อันน่ารักใคร่
หลงลืมสติ อารมณ์ถูกครอบงำ
ด้วยสัญญาแห่งกรรม
ทำให้เสวยอารมณ์กิเลส
หมกหมุ่นพอใจติดใจอยู่ในวังวนแห่งกาม สะสมทุกข์ บางครั้งเหมือนกลัว
แต่กรรมทำให้กล้ามากกว่ากลัว

กรรมทำให้อารมณ์ใจพัวพันเรื่องน่าเวทนา กรรมชั่วดูดความชั่วเข้ามาทำให้ไม่รู้สึกละอาย ถึงวันนี้กิเลสในใจก็ยัง
มีอยู่ เบาบางไปบ้างไม่มากนัก
เพียรรู้เท่าทันอารมณ์ยับยั้งชั่งใจ 

เวลาไม่พอให้พักหรือหยุดในการให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนา ชีวิตนี้น้อยนัก 
น้อยเกินไปที่จะว่ายออกจากวัฏฏะสงสาร

ทานศีลภาวนาทำพร้อมกันทุกวัน
อดทนเพียรเผาอารมณ์กิเลส
โยนิโสมนสิการน้อมเข้ามาในใจ

ปลุกเร้าคุณธรรม ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาคิดปรุงแต่งไปในทางเป็นประโยชน์เป็นกุศล ในการอยู่ร่วมกันอย่างให้เกียรติมีความสม่ำเสมอแสดงให้เห็นพฤติกรรมแห่งคุณงามความดีต่อบุคคล เหตุการณ์และสถานที่สิ่งแวดล้อม รวมถึงคนรอบตัว

อยู่กับผู้ประเสริฐเป็นสุขทุกเมื่อ

การเรียนรู้ไม่จบสิ้นใช้มหาสติปัฏฐานสี่
เพ่งพิจารณามีสติระลึกรู้กับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ เกิดขึ้นหรือรู้ล่วงไปก็รู้

โฟกัสที่กายกับใจของเราเท่านั้น

วางอุปสรรคที่จะขวางกั้นความดี

เริ่มต้นมีสติทุกขณะของลมหายใจ
ใช้ชีวิตตามปรกติ อดทนอย่างยิ่ง
รู้เพื่อละอารมณ์โลภโกรธหลง
เห็นโทษของกิเลสทุกรูปแบบ

สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยิน
ไม่ยึดเข้ามาปรุงแต่งอารมณ์ในใจ

กิเลสในใจเป็นของชินเกิดง่ายชนะยาก
ต้องดับอารมณ์ในใจเท่านั้น
ยากแค่ไหนก็ต้องอดทน เรียนรู้เพื่อ
เพื่อเข้าสู่กระแสธรรม

โลกภายนอกอยู่ยาก

สร้างโลกภายใน สร้างวินัยให้ตนเอง
เสียสละอย่ามีประโยชน์ รักษาเพื่อไม่เบียดเบียน ใจพร้อมกายพร้อมที่จะสร้างคุณงามความดีเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย

ดับไม่เหลือเชื้อคือคำที่ดังก้องในใจ
ตั้งแต่เข้ามาบวชชีได้ห้าวัน

เขียนให้ทุกท่านอ่านเป็นเรื่องเฉพาะตัว
เฉพาะตน ใช้ทั้งชีวิตศึกษาทานศีลภาวนา
จนเกิดปัตจัตจังในชีวิตจริง

ทำทุกวัน ไม่เคยเลิกล้ม ชีวิตเลือกได้
มีมากก็ทำมาก มีน้อยก็ทำน้อยตามกำลัง
ไม่เดือดร้อนตนและผู้อื่น ไม่คิดหยุดทำ

ให้ทานไม่ได้  อารมณ์ตระหนี่ขี่คอไม่ปล่อย
รักษาศีลไม่ได้  เสวยภัยแห่งทุกข์รอบตัว
เจริญสติไม่ได้  เป็นทาสกิเลสโลภโกรธหลงจนตาย เลือกแบบไหนดีกว่ากัน

รักษาศีลไม่ให้ทานไม่เจริญภาวนา
ไม่ก้าวหน้าปัญญาไม่เกิด 
กิเลสมีกำลังมากกว่า 

กุญแจสำคัญที่ไขไปสู่ความสำเร็จ
ทำพร้อมๆกันทั้งให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนาทั้งหลับตาทั้งลืมตามีสติระลึกรู้
ท่านลงมือทำเมื่อไหร่ท่านจะรู้จัก
คำว่า ปัตจัตจัง 

รักคนอื่นมาทั้งชีวิตก็ได้ ได้สุขจากความรัก สุขพร้อมทั้งทุกข์ยังไม่ใช่สุขจริง

หันมารักตนเองให้โอกาสตนเอง
ท่านจะเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา
มีสติอยู่เหนือโลกธรรม ได้ประโยชน์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า

พยัญชนะตัวอักษรทุกคำเป็นสิ่งที่เรียนรู้จากชีวิตจริง

ทุกถ้อยทุกธรรม ปัตจัตตัง ธรรมทาน
ขอน้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่คุณพระศรีรัตนตรัย

สาธุปัตจัตตัง ธรรมทาน

ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ