ปัตจัตตัง ธรรมทาน -: หน้าที่ 15 :-
..หน้าสุดท้าย..
อยากได้..อยากมี..อยากเป็น
คิดร้าย..อิจฉาริษยา
หลง..ไม่รู้จริง..โง่เขลา
ถือตัว..เห็นผิด
ลังเลสงสัย..เคลือบแคลง
หดหู่..ท้อแท้..ถดถอย..ฟุ้งซ่าน
ไม่ละอาย..ต่อความชั่ว
ไม่เกรงกลัว..ต่อความชั่ว
เคยใช้อารมณ์กิเลสเหล่านี้..ดำเนินชีวิต
ไม่เคยรู้จักความสุข..มีแต่ความทุกข์
ที่สาดเข้ามาในใจ..ทั้งวัน..ทั้งคืน
อารมณ์กิเลส..ไม่ให้คุณแก่ใคร
เป็นอุปสรรค..ในการทำความดี..อย่างยิ่ง
เจริญวิปัสสนา..แผ่เมตตา
ให้รากเหง้า..แห่งกรรม
ทำให้กิเลสที่หนาแน่นในใจ..ค่อยๆเบาบาง
ชีวิต..มีไว้ให้เรียนรู้
สุข..ทุกข์..มีไว้ให้เข้าใจ
อยากอยู่..อย่างสงบ..ต้องเดินหน้าไป
ไม่ถอยหลัง..หรือ..ย้อนกลับ..ไปรับกิเลสเข้ามา
มีลมหายใจ..เป็นเครื่องอยู่..วันต่อวัน
บางวัน..สุขภาพดี..จิตใจเบิกบาน
บางวัน..สุขภาพไม่ดี..ใจก็พลอยห่อเหี่ยว
>>ความไม่แน่นอน..เกิดขึ้นตลอดเวลา<<
>>เดี๋ยวดี..เดี๋ยวร้าย..สภาพไม่เที่ยง<<
ไม่ปล่อย..ให้อารมณ์กิเลสอยู่เหนือใจ
เพราะอารมณ์กิเลส..คือ..สาเหตุแห่งการก่อเวรก่อกรรม..แก่ตนเองและผู้อื่น
>>อดทน..อดกลั้น..ยับยั้ง<<
เห็นโทษของกรรม..ที่ข้ามภพ..ข้ามชาติ
..ชีวิตจึงมีค่า..มากกว่าที่คิด..
ทุกชีวิต..ต่างมีคุณค่าต่อโลก
มีคุณค่า..ต่อครอบครัว..ต่อกันและกัน
ไม่มีใคร..อยู่ได้..โดยไม่เกี่ยวข้องกับใคร
ต่างต้องอาศัย..ซึ่งกันและกัน..น้อยบ้าง..มากบ้าง
..ทุกชีวิต..จึงมีค่าต่อกัน..เกื้อกูลซึ่งกันและกัน..ไม่ทางตรง..ก็ทางอ้อม..
..ทำงานร่วมกัน..
การสำรวมระวัง..กาย..วาจา..ใจ
เป็นเครื่องอยู่ร่วมกัน..ทำให้เกิดความสามัคคี..เกิดความสุข..ในการทำงาน
..ชีวิต..มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย..
..ทำกรรมดี..
ก็ได้รับความสุข..ความเจริญ กรรมดี..เหมือนกัลยาณมิตรที่คอยให้ความอุปการะ..ส่งเสริมให้ประสบแต่ความสุข..ความเจริญ..
..ทำกรรมชั่ว..
..กรรมชั่ว..ก็คอยล้างผลาญ..
..ให้พบแต่ความทุกข์และความเสื่อม..
..เมื่อใด..ที่ท่านลงมือปฏิบัติธรรมจริงจัง..
ท่านจะเข้าใจสัจธรรม..ของกิเลสในใจท่านดี..กว่าผู้อื่น
จบ..ปัตจัตตัง..ธรรมทาน..หน้าสุดท้าย
สาระประโยชน์ใด..เกื้อกูลแก่การเจริญกุศลความดี..ข้าพเจ้าขอน้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่คุณพระศรีรัตนตรัย..
..สาธุ..ปัตจัตตัง..ธรรมทาน..
..ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..