อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 6 ตัดสินใจบวช

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 6

ตัดสินใจบวช

..เดินออกจากร้านอาหารไม่มีเงินติดตัวเลย..
..ไม่รู้จักกรุงเทพ..นั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์..

..เรียกรถแท๊กซี่..ให้ไปส่งที่อัมพวา..
..กะว่าถึงอัมพวา..พอหาเงินค่ารถได้
..เจอคนขับบ้านเดียวกัน..ไปส่งไม่คิดเงิน

..กลับบ้านเจอลูกสาว..ชวนกันไปวัดเขาอิติ
..หลวงพ่อปรีชาชวน..ให้บวช..
..ถูศาลาวัด..กวาดถู..เช็ดพระ..

..มีคนมาหา..หลวงพ่อปรีชา..ทั้งวัน
..คุยแต่เรื่องนั่งสมาธิ..เห็นนั่น..เห็นนี่
..เข้าไปหาหลวงพ่อ..เขาเห็นอะไรกัน..
..นั่งหลับตาทำไมถึงเห็น..
..ฉันอยากเห็นบ้าง..ท่านบอกว่า..
..ให้ขึ้นไปบนโบสถ์..นั่งสมาธิ..
———————————-

อ่านต่อ

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 5 ผลของอาชีพ

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 5

ผลของอาชีพ

..ค้าขายทางเรือ..เวลาเอาหินทรายขึ้น..
..ต้องจ้างคนงานลำละ6คน..

..แค่คิด..ในใจ

..คนมีอาชีพค้าแรงก็เอาเปรียบ..กินแรง..
..พวกเดียวกัน..เดี๋ยวขี้..เดี๋ยวเยี่ยว..เดี๋ยวสูบยา..
..กว่าจะหมดลำ..ก็มืดค่ำ..แบ่งเงินเท่ากัน..
..ส่วนมากจะยอมกัน..เพราะครอบครัวเดียวกัน..

..เห็นแล้วก็..ทำใจ..รีบไม่ได้..ค้าขายทางน้ำ..
..ขึ้นของไม่หมด..ก็ไม่ทันนำ้ขึ้น..เรือติดสพาน..
..ต้องรอน้ำลงใหม่..เสียเวลาอีกวันนึง..

..ความคิด..ผุดขึ้นมา..

..ชงโอเลี้ยงใส่ยาขยัน 5 เม็ด..

..เรือมาถึงเย็น..บอกคนงาน..ขึ้นของให้..
..แจกโอเลี้ยง..เต็มกระติก..เฝ้ามองดู..

..ได้ผลเกินคาด..

..หินขึ้นเสร็จในเวลา..สี่ชั่วโมง..สุดยอด..
..ขึ้นอีกลำไหวมั้ย..คนงานตอบOK..

..ทำแบบนี้เป็นเวลา..หลายปี..คนงานไม่รู้..
..งานเสร็จ..เลี้ยงเหล้า..แยกย้าย..
..เงินทองไหลมาเทมา..

..โครงการหมู่บ้าน..ขึ้นบ้านจัดสรรริมแม่น้ำ

..ติดต่องานได้..200ลำ..เงินที่มี..ลงทุนหมด
..เวลาเบิกเงิน..ไม่เคยได้เงินสักบาทเดียว..
..ทุนหมด..ครอบครัวแตก..ลูกแยกกัน..

..เรือค่อยๆจม..10วันหนึ่งลำ..10วันหนึ่งลำ

..หมดทุกอย่าง..นั่งที่ไหน.หมาก็….เยี่ยวใส่

..ไปหาหลวงพ่อปรีชา..ขอความช่วยเหลือ..

..หลวงพ่อถามว่า..จะให้ช่วยอะไรบ้าง..
..ฉันจะไปทำงาน..โรงงานสัปปะรด..
..ฉันอยากได้ทุกอย่าง..ผ้าห่ม..ข้าวสาร..
..กูอนุญาติไปเอาได้ที่ห้องสังฆทาน..

..อยู่หอพักโรงงานสัปปะรด

..ทำงานรายวันจิกตาสัปปะรด..ค่าแรงวันละ126 บาท
..ทำกับลูกสาว..ทำงานตอนเย็นยืนทั้งคืน..รู้สึกจิตตก

..ทำให้ลูกลำบาก..ทำได้อาทิตย์เดียว..ย้ายออกนอกโรงงาน
..ปีนขึ้นบนรถสิบล้อ..ถีบสัปปะรด..ลงสายพาน..
..มันสุดจะท้อแท้..รถจอดเป็นสิบๆคัน..ต้องถีบกับลูกสองคน

..อายเรื่องของที่เอาจากวัดมา..
..ไม่เคยรู้สึกว่าอายเรื่องคตโกงเลย..แปลกมาก

..เพื่อนร่วมงาน..ถามว่าทำไมเอาของมา..เยอะแยะ
..แทนที่จะบอกว่า..หลวงพ่อให้มา..

..บอกว่าบ้านใกล้แมคโค..คนก็ถามอีก..
..ทำไมถังก็เหลือง..ขันน้ำก็เหลือง..แก้วน้ำก็เหลือง..

..โห..ทำไมต้องถาม..ฉันเกิดวันจันทร์..

..เขาเลยไม่ถามอีก..เรียกเราว่า..คุณนายถังเหลืองทั้งหอ
..ไม่นานก็ออกจากโรงงาน..

..เช่าร้านทำร้านข้าวแกง..ทำอร่อย..เจ้าของตึกมาชวน
..ทำร้านอาหาร..ชวนทุกวัน..ลองสักตั้ง

..ไปเป็นแม่ครัว..ร้านอาหาร..
..ขายตั้งแต่..บ่ายสามโมงเย็น..เลิกเที่ยงคืน
..ต้องล้าง..ต้องเก็บร้าน..กว่าจะเสร็จ..ตีสอง
..ทำคนเดียว..

..ตื่นตีห้า..เตรียมของขาย..เหมือนกิน..ยาขยัน..
..ลูกชายตามหาแม่..เดินตั้งแต่บางแค..
..ถึงบางเขน..สงสารลูกจับใจ..มีตังมั้ยลูก..

..ขอเบิกเงินเดือน..เจ้าของร้านไม่ให้..
..ทำงานหกเดือน..ไม่เคยได้เงิน….ถูกโกงค่าแรง..

..ผลกรรมนี้เกิดจากความคตโกงตั้งแต่แรก..

..ที่มาของเรือที่จม..

..เรือหนึ่งลำ..ใส่หิน6คันรถ..
..ก็ฉลาดใส่แค่4คันรถ..เปิดวาวล์..
..ใต้ท้องเรือ..เอาน้ำเข้ามาในเรือ..
..ให้เรือดูหนัก..โกง2คันรถ

..ที่มาของการถูกโกงค่าแรง
..เอายาขยันมอมคนงาน..เพื่อประโยชน์เรา.
..สร้างเหตุอะไรไว้..รับผลเต็มๆ..
..ไม่ได้หลับ..ไม่ได้นอน..ถีบสัปปะรด..ทำอาหาร

..นี่แค่โกงระดับคน..คนหนึ่งที่พอจะโกงได้
..รับกรรมสาหัส..กว่าที่เขียนเยอะ..
..ถ้าคิดจะโกงระดับชาติ..คงต้องนั่งจรวด
..ไปปลูกบ้านที่ดาว..พูลโต..

..ทำแบบนี้..ค้าขายแบบนี้..เรียกมิจฉาชีพ..
..ไม่ใช่..สัมมาอาชีพ..

..ผลของความโลภ..ไม่เคยปราณีใคร..
..เมื่อไหร่ที่..ความโลภ..ครอบงำใจ..
..เห็นอะไรก็..มีช่องทาง..พร้อมโกง..
..คำว่า..ฉลาดแกมโกง..คนนี้นี่แหล่ะตัวจริง..

พระธรรมของพระพุทธองค์..เปิดโลกให้สว่างด้วยปัญญา

(อย่าเพิ่งเบื่อนะคะใก้ลจะบวชและ)

แม่ชี ทศพร วชิระบำเพ็ญ

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่4 พูดไม่คิด

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่4

–พูดไม่คิด–

..การเห็นคนอื่นล้มเหลวหรือมีปัญหาครอบครัว..
..เราพูดเสมอตอนที่ยังวัยรุ่น..

“คนเมาอย่างนี้ไม่เอามาทำผัวแน่นอน”

“หน้าตาสวยขนาดนี้เป็นเมียน้อยทำไมวะ”

“ทะเลาะกันทุกวัน..เป็นกูเลิกไปนานแล้ว”

“คนไม่ทำมาหากินแบบนี้..ไม่เจอกันแน่”

“คนอะไรใจร้าย..อิจฉาเมียตัวเอง”

“คนอย่างกูไม่เป็นหนี้แบบนี้หรอก..กูขยัน”

“โห..โคตรโกง”

“ไปวัด..แทนที่จะไปทำบุญ..ขนของวัดมากิน
เป็นกูไม่เอาแน่ๆ”

..ไม่นานชีวิตตกต่ำ..อาศัยข้าววัดทุกมื้อ..
..หิ้วไปฝากลูกฝากผัว..น้ำตาจิไหล..

..ทุกเรื่องที่พูดไว้..กลับมาที่เราทุกเรื่อง..พูดจริง..
..พูดเล่นต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง..
..มากกว่านั้น..ถ้าพูดให้เขาทะเลาะกัน..
..ครอบครัว..หาความสุขไม่ได้เลย

..เวลาทะเลาะกัน..อดทนไว้เงียบดีที่สุด..
..หายโกรธแล้วค่อยคุยกัน..

..ทะเลาะกัน..อย่าพูดว่า..”กูจะผลาญให้หมด”..
..เพราะจะหมดทุกอย่าง..เสื่อปูนอน..ก็ไม่มี..

..เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องในครอบครัวเรา..อย่าเอามาพูดเช่น
“โหเป็นหนี้ไม่ใช้..กินอยู่สุขสบายทุเรศ..”

..แล้วเรื่องทั้งหมด..ที่เราเคยว่าเขาไว้..
..เราจะทำเหมือนเขา..ทุเรศกว่าเขาสิบเท่า..

..ไปกินอะไรมา..โคตรอ้วน..
..ตอนที่พูดน้ำหนัก 48 หลังจากพูดน้ำหนัก 97..

..ไม่มีอะไรยืนยันว่าจริงหรือเปล่า..
..แต่เราเคย..ได้รับผลของการพูดไม่คิดมาแล้ว..

..เดี๋ยวนี้เครื่องมือสื่อสาร..อยู่ในมือเรา..
..จะเขียนอะไร..ด่าว่าคนอื่นที่เรามีอารมณ์ร่วม..
..ระวังเรื่องจะเข้าตัวเอง…

..กรรมดี..ทำให้มีชีวิตไม่ขัดสน..ดีอยู่แล้ว..
..มโนกรรม..ทำให้คิดไม่ดี..ทำไม่ดี..พูดไม่ดีต้องระวัง..

..ชีวิตที่ยังมี..ลมหายใจ..เป็นทุนหลัก..
..ทำอย่างไร..ให้ชีวิตมีความทุกข์..
..ให้น้อยที่สุด..

..จงมีเมตตาต่อลมหายใจของเรา..
..อย่าเอาเรื่องคนอื่น..มาหายใจแทนเขา..

..เห็นการกระทำของคนอื่น..จะชั่ว..จะดี..
..เป็นเรื่องของเขา..อุเบกขาไว้..อย่าอคติ..
..ดูการกระทำของเราไว้ดีๆ..อย่าประมาท..

..มีโอกาสให้เงินแม่บ้าง..ไม่ได้มากมาย..

..เห็นแม่เอาเงินให้น้องให้พี่เป็นค่าเทอม..

..โกรธ..โกรธ..ต่อว่าแม่ด้วยคำรุนแรง..
..ค่าเทอมอีกแล้ว..ค่าเทอมอีกแล้ว..

..ถ้าฉันไม่ให้ตังแม่..แม่จะกินอะไร…

แม่พูดว่า

..”เงินมึงใหญ่จริงๆ..มึงให้แม่มา500 บาท..
..มึงคิดว่าเงินมึงกินได้ทั้งชาติรึไง…

..เมื่อไหร่มึงมีลูก..มึงก็จะรู้”..

..มีลูกห้าคน..

..ไม่มีใครเรียนหนังสือสักคนเดียว..

..ที่ผ่านมาถึง..ปัจจุบัน….ใครที่เรียกเราว่าแม่..

..ส่งค่าเทอม..จนเรียนจบ..

..จะพูดอะไรจะทำอะไรไว้..กรรมชัดเจนเสมอ..

..บุญส่งผลให้เกิดมา..ครบอาการสามสิบสอง..

..อย่าโทษใคร..ถ้าชีวิตตกตำ่..ลองคิดดู
..เราทำตัวเองทั้งนั้น..

..แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้า 3 ..คตโกง..

–อ่านหนังสือวันละหน้า หน้า 3–

..คตโกง..

..ค้าขายหินทราย..ทางเรือ..เมื่อ 30 ปีก่อน..

..น่าจะเป็นช่วงเส้นกราฟชีวิตสูงสุด..รับงานทำถนนกับหัวหน้าชุมชน..เอาหินถมถนนเพราะน้ำท่วม..เด็กไปโรงเรียนไม่ได้..

..ช่วงนั้นมีเรือ 4 ลำ..ลงทุนลำละ 5,000 บาท..ขายลำละ 15,000 บาท กำไรลำละ 10,000 บาท

..อาทิตย์ละ 4 ลำ..เดือนละ 16 ลำ..กำไรเดือนละ 160,000 บาท..

..คำนวนให้วิ่งได้มากกว่าอาทิตย์ละ 4 ลำ เป็นเดือนละ 20 ลำ..กำไรเดือนละ 200,000 บาท..

..ไม่มีที่จะเก็บเงิน..เอาใส่ปี๊บ..เอาซ่อนไว้ใต้ท้องเรือ..ทำอะไรก็ได้แต่เงิน..กำลังดวงดี..

..สร้างถนนประมาณ 7 เดือน..เสร็จงาน..ส่งงาน..หัวหน้าชุมชนขอแบ่งเปอร์เซนต์..

..คุยกันว่า..”รู้ๆกันอยู่..น้ารับงานมาจากหลวง..น้าก็บวกมาแล้ว..อย่ามาเบียดเบียนฉันเลย..ฉันแทบไม่มีกำไร”..

..ไม่นาน..
..เรือลำที่เก็บเงินโดนพายุ..เรือแตก..แทบเอาชีวิตไม่รอด..พอน้ำลด..ไปหาเงินที่ซ่อนไว้..แบงค์ลอยติดกับหินในเรือ..เก็บได้ 20,000 บาท..

..ต้องทิ้งเรือทั้งลำ..
..แต่ไม่เป็นไร..ยังมีเรืออีกสามลำ..เสียดายเงินก้อนใหญ่ที่หายไปกับน้ำทะเล..แต่ไม่เป็นไรปั้นใหม่ได้..

..แวะไปเยี่ยมหัวหน้าชุมชนเพื่อของานอีก..

..เมียออกมารับ..ร้องไห้ตาบวมเบ่ง..บอกว่า
..หัวหน้าชุมชนไม่สบาย..เข้าไปดูก็ตกใจ..
..คนสุขภาพดี..ร่างกายใหญ่โต..ทำไมผอมแห้ง..หนังติดกระดูก..นอนตัวแข็ง..พูดไม่ได้..ลิ้นแข็ง..กลืนอะไรไม่ได้..

..เมียแกเล่าว่า..นอนตื่นขึ้นมา..ก็เห็นแกตัวแข็งทื่อ..พูดไม่ได้ ..ไปหาหมอก็ไม่ดีขึ้น..ไปหาหมอก็ทุลักทุเล..เหมือนยกแผ่นหิน..

..เรารู้สึกเสียวสันหลัง..ก้มไปบอกแกว่า..ขอให้หายเร็วๆ..
..แกมองตอบมา..เลยบอกแกว่า..”ฉันก็โดน..ฉันไม่ป่วยแต่เรือฉันแตกจมไปลำนึง”..

..เราไม่รู้จักเรื่องเวรกรรมอะไรทั้งนั้น..คิดว่า..การค้าขายมีกำไร..เรียกว่า..ถูกต้อง..

..ชีวิตมีขึ้นมีลง..แต่ตอนที่ขึ้นเราโกง..ก็ไม่มีโอกาสใช้เงินเหนื่อยฟรี..ของหลวงของแผ่นดินน่ากลัวจริงๆ..ส่วนหัวหน้าชุมชนไม่นานก็เสียชีวิต..

..ถ้าชีวิตมีช่องทางคตโกงใครได้..จงตั้งสติ
ว่า..มันไม่ใช่ของ..ของเรา..
..โกงมาอย่างไรก็ไม่มีความสุข..ลึกๆเรารู้ว่าเราโกงเขามา..

ทำงานราชการก็ต้อง..ระวังใจไว้..อย่าเบิกอะไร..ที่ไม่มีจริง..กินใช้ไม่นาน..กรรมตกถึงลูกหลาน..ไม่มีจะกิน..

ซื่อกินไม่หมด..คตกินไม่นาน..ซื่อสัตย์แล้วได้อะไร?..ได้ความสง่างาม..รวยทนรวยนาน..

แม่ชี ทศพร วชิระบำเพ็ญ

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 2

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่ 2

..น้อยใจแม่..

..ความล้มเหลวเกิดขึ้นในครอบครัว..

..สุดท้ายก็เข้าไปหาแม่..ขอยืมเงินไปทำทุน ..แม่ให้เงินมาก้อนนึงเป็นทุนค้าขาย ..ขายของดีมากกำไรเยอะ..แต่ไม่เคยเอาทุนไปคืน..

..ไม่นาน..อยากได้อะไรก็ผ่อน..เงินทุนไม่พอก็กู้..ส่งแต่ดอก..ไม่เคยส่งต้นหมดเลย..ทำอะไรก็เป็นหนี้..ถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย..

..กลับไปหาแม่อีก..ให้ช่วยอีกครั้ง..แม่ให้เตี่ยไปกู้ผู้มีพระคุณมาให้ ..ได้เงินปุ๊บ..หันหลังให้แม่กับเตี่ยบอกกับแม่ว่า..ต้องรีบไป..ไม่เคยบอกว่าจะคืนเงินเมื่อไหร่

..ได้เงินมาค้าขายอีก..ก็ค้าขายดี..แต่พอจะมีกำไร..ของที่จะเป็นกำไร..ก็เหลือ..ขายไม่หมด..หนี้สินเริ่มท่วมหัว

..กู้อีกหนึ่งพัน..ส่งต้น..พร้อมดอกวันละ 40
ส่ง 40 วัน กู้หนึ่งพันส่ง 40 วัน ดอกพร้อมเงินต้น 1,600 บาท

..เอาของแม่มา..ไม่เคยพูดถึง..
..กู้คนอื่น..คืนได้.ดอกแพงแค่ไหนก็ยอมคืน..

..เจ้าหนี้ตามทวงถามเตี่ยว่า..เมื่อไหร่จะเอาเงินมาคืน..เตี่ยก็พลัดผ่อน..และทุกข์ใจกันทั้งบ้าน..

..พี่น้อง..เห็นเราก็เบื่อหน่าย..พอแม่ถามเรื่องเงิน..ก็เสียใจ..ว่า..แม่ให้พี่ชายมากมาย..ไม่เห็นแม่ทวงถาม..ต่อว่าแม่..ว่า..”รักลูกไม่เท่ากัน”..

..แม่ลำเอียง..แม่ลำเอียง..
..ไม่นานสามีปันใจ..ให้หญิงอื่น..ปันใจต่อหน้า..เงินที่หยิบยืมมา..เป็นเหล้าเบียร..บุหรี่ ผู้หญิงอื่น..ไม่เคยช่วยทำกิน..เพื่อสร้างครอบครัว..แต่สร้างหนี้ให้เราตามไปใช้หนี้มากมาย..มหาศาล..ทุกข์ใจ..

..เหมือนเราไม่เคยรู้จักความรักจากสามีเลย..

..กรรมที่ขอยืมเงินแม่มา..แล้วยังไม่คืน..ทำอะไรก็ขาดทุน..เพราะไม่คืนทุนให้แม่..
…ต้องไปใช้หนี้..ที่สามีสร้างไว้..อนาถมาก..

..กรรมที่น้อยใจ..ว่าแม่ลำเอียง..
..สามีมีหญิงอื่นทันที..

..ใครที่ยืมแม่มาแล้ว..ยังไม่มีโอกาสคืน..

..กลับไปกราบแม่..บอกว่า..”เงินที่เอาของแม่มาลงทุน..หนูจะเอามาคืนแม่นะ”..

..เพราะเราไม่เคยบอกว่า เราจะคืนถึงเป็นหนี้รากเลือด..

..แค่ไปบอกแม่ว่า..”จะคืนเงิน”..แม่ก็ชื่นใจแล้วค่ะ

..เริ่มต้นใหม่จะได้ไม่ติดขัด..

..แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..

..ไม่มีประโยชน์อะไร..ที่ปีนขึ้นไปอยู่บนยอดได้.. ..ตรงไหนก็สูงเสมอ..ถ้าจิตใจไม่ตกต่ำ..

..ไม่มีประโยชน์อะไร..ที่ปีนขึ้นไปอยู่บนยอดได้..
..ตรงไหนก็สูงเสมอ..ถ้าจิตใจไม่ตกต่ำ..

ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่1 เรื่องที่ไม่ควรทำ

อ่านหนังสือวันละหน้า

หน้าที่1 เรื่องที่ไม่ควรทำ

เคยทะเลาะกับแม่ แม่โกรธด่าอะไรออกมา
ก็พูดย้อนจนแม่ร้องไห้ แล้วไม่พูดกับแม่…
เวลาผ่านไปคลอดลูกชายหน้าตาน่ารัก..
พยายามพูดกับลูก สื่อสารอย่างไร ลูกชาย
ก็ไม่พูด ทุกข์ใจมากกลัวลูกเป็นใบ้

ความผิดปรกติเกิดขึ้นกับลูกตั้งแต่เกิดมา
ไม่เคยร้องให้ได้ยินเลย มดกัด หรือผึ้งต่อย
หรือถูกอะไรบาด ลูกไม่เคยร้องพอเราเห็น
เราเองที่ต้องร้องแทนลูกเพราะมันกินใจ
เห็นแผลแล้วใจสลายเหลือเกิน

ทุกข์ใจห้าปีเต็มลูกชายค่อยๆพูดสื่อสารได้
กรรมที่พูดให้แม่เสียใจ กรรมที่ไม่พูดกับแม่หนึ่งปี รับกรรมห้าปีกรรมทำหน้าที่ แม่ปวดใจที่เราพูดยอกย้อน แม่ปวดใจที่ลูกไม่พูดด้วย ยังไม่จบ

ระหว่างชีวิตที่อยู่กับครอบครัวไม่เคยมีความสุขเลยเพราะสามีเอามีดปาดตาลวางที่หัวนอนทุกวัน เราไม่มีโอกาสที่จะพูดหรือขออะไรจากสามีได้ เพราะเขาจำกัดการใช้เงินให้เท่าไหร่ก็ต้องใช้แค่นั้น

ตื่นนอนเข้าห้องน้ำเขาก็เอามีดตามลงมา
เขาพูดอะไร เราไม่มีสิทธิ์ถกเถียงเพราะมีดคมกริบพร้อมฟันเราได้ทุกเวลา ไม่เคยทะเลาะกันเพราะเรากลัว ไม่มีอิสระภาพหวาดกลัวตลอดเวลาทำงานได้เงินเท่าไหร่สามีเก็บหมด

นี่คือกรรมที่เราทำให้แม่ร้องไห้ เราต้องร้อง
มากกว่าที่แม่ร้องเป็นสิบเท่า เรื่องที่ไม่ควรทำคืออย่ายอกย้อน
อย่าไม่พูดกับแม่

โปรดติดตามหน้าที่2 วันต่อไป

แม่ชี ทศพร วชิระบำเพ็ญ

การช่วยเหลือผู้อื่น..ประโยชน์สูงสุด ล้วนกลับคืนมาสู่ผู้ให้…

การช่วยเหลือผู้อื่น..ประโยชน์สูงสุด
ล้วนกลับคืนมาสู่ผู้ให้…มีอีกหลายมุมมอง
ถ้าเราเห็นถูกต้อง..ทำในสิ่งที่เป็นเรา
ไม่เบียดเบียนผู้อื่น..ไม่เห็นแก่ตัว..มีชัยตั้งแต่คิด

ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ
———————————-

….ทำไมคนตาบอดจึงถือโคมไฟ….

ยังมีตรอกสายหนึ่งที่ทั้งมืดทั้งแคบ ทั้งยังไม่มีดวงไฟส่องทางให้ความสว่างแม้แต่น้อย
ดังนั้นเมื่อถึงยามค่ำคืน การเดินทางในตรอกแห่งนี้จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก

คืนวันหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม ทว่าด้วยความที่ตรอกนี้มืดมิดกระทั่งนิ้วมือทั้งห้าของตนเองยังไม่อาจมองเห็นได้
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ พระรูปนี้จึงทั้งเดินไปชนผู้อื่น และถูกผู้อื่นเดินมาชนไม่หยุดหย่อน สร้างความลำบากยิ่งนัก
ในตอนนั้นเอง มีคนผู้หนึ่งถือโคมไฟเดินเข้ามายังตรอกดังกล่าว พลันทำให้ในตรอกเกิดแสงสว่างขึ้นพอสมควร พระรูปนั้นได้ยินคนเดินผ่านทางกล่าวว่า
“คนตาบอดผู้นั้นช่างแปลกนัก ตนเองมองไม่เห็นแท้ๆ ใยต้องถือโคมไฟให้วุ่นวาย”
เมื่อพระได้ยินก็รู้สึกแปลกใจ รอจนกระทั้งคนตาบอดถือโคมไฟคนนั้นเดินผ่านมา จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “ขออภัย ท่านตาบอดจริงๆ หรือ?”
คนผู้นั้นตอบว่า “ถูกแล้ว ข้าเกิดมาก็พิการ ตาสองข้างมองไม่เห็น สำหรับข้านั้นไม่ว่าจะยามเช้าสายบ่ายเย็นล้วนไม่ต่างกัน ทั้งยังไม่ทราบว่าแสงสว่างหน้าตาเป็นเช่นไร”
พระได้ยินดังนั้นก็ยิ่งงุนงงมากขึ้น เอ่ยถามต่อไปว่า “เช่นนั้นท่านจะถือโคมไฟไปเพื่ออะไร?”
คนตาบอดตอบว่า “เนื่องเพราะข้าเคยได้ยินคนพูดกันว่าในยามกลางคืนไร้แสงสว่าง คนตาดีทั้งหลายก็เป็นเช่นเดียวกับข้าคือมองไม่เห็นสิ่งใด ดังนั้นข้าจึงถือโคมไฟไปไหนมาไหนเสมอ”
พระได้ยินดังนั้นก็เกิดความซาบซึ้งใจ เอ่ยคำ อมิตาพุทธออกมา และกล่าวต่อไปว่า
“ท่านช่างมีเมตตาธรรม ห่วงใยเพื่อนมนุษย์”
มิคาดคนตาบอดกลับกล่าวว่า “ผิดแล้ว ข้าทำไปเพื่อตัวเอง”
“ทำเพื่อตัวเองอย่างไร?” พระถามต่อด้วยความสงสัยใจ
คนตาบอดอธิบายว่า เมื่อครู่ท่านเดินอย่างมืดมนในตรอกใช่โดนคนเดินสวนไปมาชนเอาหรือไม่
ท่านดูข้าเองนั้นแม้เป็นคนตาบอด แต่ข้าไม่โดนผู้อื่นเดินชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนข้าก็เป็นเช่นเดียวกับท่านคือโดนคนเดินมาชนเอาบ่อยครั้ง แต่เมื่อข้าถือโคมไฟทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ที่ข้าจุดโคมไปไหนมาไหนด้วยนั้นข้าจุดเพื่อให้แสงสว่างกับผู้อื่น และเพื่อให้ผู้อื่นมองเห็นตัวข้า ตั้งแต่นั้นมาข้าก็ไม่โดนผู้ใดเดินชนอีกเลย

การเกิดมาเป็นมนุษย์..ถือว่าสอบผ่าน

การเกิดมาเป็นมนุษย์..ถือว่าสอบผ่าน
จะเลื่อนชั้นเป็นเทวดา..หรือตกชั้นเป็นมนุษย์ชั้นเปรต
ก็ต้องหาทิศให้ตัวเอง..ได้เรียนรู้
ใช้ความเป็นมนุษย์..คุ้ม…ที่เกิดมาหรือเปล่า

ท่านเชื่อมั้ย…เราเคยอด..อยาก
หาเงินได้..ไม่มีโอกาส..ได้ใช้จ่าย
กับเงินที่หามาได้..ซักบาท

จากที่รู้มาก..ฉลาดมาก..ก็เกิดภาพความเป็นลูกดี
ขายของได้เท่าไหร่..ให้แม่หมด..เวลาผ่านไป
แม่ใช้เงินที่เราขายของได้..ให้พี่ชาย
ครั้งละหลายร้อยบาท..นอนร้องไห้เสียใจที่เห็นแม่
ทำแบบนั้น..จากที่คิดว่า..เป็นคนดี
ก็เริ่มเปลี่ยนไป..ขโมยตังค์เตี่ย..
ทุกวัน..ทุกครั้งที่มีโอกาส..

อ่านต่อ

ดวงตาที่สวยที่สุดคือ ดวงตาที่มองแต่สิ่งที่ดีในตัวผู้อื่น

“ดวงตาที่สวยที่สุดคือ ดวงตาที่มองแต่สิ่งที่ดีในตัวผู้อื่น”
“มือที่สวยที่สุด คือ มือที่ฉุดดึงผู้ที่ล้มลงให้ลุกขึ้น”
“ขาที่สวยที่สุด คือ ขาที่ก้าวเดินด้วยสติและปัญญา”
“ปากที่สวยที่สุด คือ ปากที่พูดด้วยความรักและความเมตตา”

อยากเป็นที่รักต้องทักก่อน..”สวัสดี”
อยากมีความสุขต้องรู้จักพูด..”ขอบคุณ”
อยากผูกมิตร..ต้องตรงเวลา..ล่าช้าต้อง..”ขอโทษ”

สามประโยคสำคัญ..ใครได้ยิน..ก็เอ็นดู

ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ

จงมีชีวิต..อยู่ด้วยการสะสมความดี

จงมีชีวิต..อยู่ด้วยการสะสมความดี
และบุญกุศลให้มากขึ้น..อย่างต่อเนื่อง
แล้วคุณจะพบว่า..ชีวิตของคุณ..มีตัวช่วยอยู่ตลอดเวลา

จงมีชีวิต..อยู่อย่าง มีศีล สมาธิ ปัญญา
แล้วคุณจะพบกับคุณค่าของชีวิต
ที่จะมีแต่คำว่า สะอาด สว่าง สงบ

จงมีชีวิต..อยู่อย่างผู้ให้ มากกว่าการเป็นผู้รับ
แล้วคุณจะพบกับความสุขลึกๆ
ที่เป็นยาอายุวัฒนะจากการให้นั่นเอง

จงมีชีวิต..อยู่กับความจริง แล้วคุณจะพบว่า
จิตของคุณได้รับการปล่อยวาง อย่างแท้จริง
โดยไม่คาดหวังกับสิ่งใดจนเกินไป

จงมีชีวิต..อยู่ด้วยการรู้จักตนเอง มากกว่ารู้จักผู้อื่น
แล้วคุณจะพบว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ล้วนแต่ต้องแก้ไขด้วยตัวเราทั้งสิ้น

จงมีชีวิต..อยู่ด้วยการอยู่อย่างพอเพียง
แล้วคุณจะพบว่า คุณไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย
เกินความจำเป็น ด้วยความอยาก และความโลภ

จงมีชีวิต..อยู่ด้วยการให้อภัย
แล้วคุณจะพบว่าคุณมีจิตใจที่แจ่มใส
ตลอดเวลา ไม่ปวดร้าวกับอดีตใดๆ

จงมีชีวิต..อยู่ด้วยจิตแห่ง ความรัก
รักโดยไม่หวังผล แล้วคุณจะไม่ต้องพบกับคำว่า
ความผิดหวัง ความแค้น ความเสียใจ อย่างที่ผ่านมา

จงมีชีวิต..อยู่กับปัจจุบัน อดีตคือประสบการณ์
อนาคตยังมาไม่ถึง ฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุด
แล้วคุณจะพบว่า ชีวิตจะดีขึ้นและมีความสุข
มากขึ้นกว่าที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดเจน
รุ่งเรือง รำ่รวย มีบริวารดีรอบตัว

ให้..จนเป็นนิสัย จะรู้ว่า..การเป็นผู้ให้
มีความสุขมากมาย

ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ

วันที่รู้ว่า..คนของเราเปลี่ยนใจ

วันที่รู้ว่า..คนของเราเปลี่ยนใจ
หายไปทั้งคืน..หรือหายไปหลายวัน
เราต้องเตรียมพร้อม..และเตรียมใจ
ที่เขาทำแบบนี้ได้..เพราะไม่เกรงใจเรา

ข้อ 1 เราทำหน้าที่สามี..ภรรยาบกพร่อง
ข้อ 2 หมดรัก..เบื่อ..อยากเลิก
ข้อ 3 คุมสติดีๆ อย่าชวนทะเลาะ

เก็บข้าวของ..ใส่กระเป๋า..กลับบ้านเรา
รอ..รอ..หนึ่งอาทิตย์ ถึง..หนึ่งเดือน
หนึ่งเดือนไม่มีใครมาตาม..หางานทำ
อย่าเสียใจนาน..หมดสัญญา..ช้า..หรือเร็วก็ต้องจาก..ชีวิตเป็นของเรา

หาโอกาสปฎิบัติธรรม..วิปัสสนาเท่านั้น
ที่จะช่วยชีวิตเรา..ที่ถูกคว่ำให้หงายขึ้น
วันใดที่เราเข้าใจพระธรรม..เราจะรู้ด้วยตัวเองว่า..ความทุกข์..ทุกเรื่อง..ดับได้ที่ใจจริงๆ

..แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..