เอตทัคคะในฝ่ายผู้เลื่อมใสมั่นคง

เอตทัคคะในฝ่ายผู้เลื่อมใสมั่นคง

นางกาติยานี เกิดในกุกรรฆรนคร เป็นผู้มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เยาว์วัย มีหญิงสหายคนหนึ่ง

ชื่อนางกาฬี เป็นชาวกุรรฆรนคร เช่นกัน
ในยามราตรีคืนหนึ่ง
ขณะที่พระโกฆิกัณณโสณเถระ
กำลังแสดงธรรมโปรดโยมมารดา
และเป็นเหตุให้โยมมารดานั้นเป็นพระอริยกายสักขี (โสดาปัตติผลถึงอรหัตมรรค)
ขณะนั้น นางกาติยานีกับนางกาฬีผู้เป็นสหาย ก็ได้ร่วมฟังธรรมอยู่ข้างท้ายพุทธบริษัทนั้นด้วย

• โจรขุดอุโมงค์เข้าบ้าน
ในคืนวันนั้น โจรประมาณ ๙๐๐ คน ได้ทำการขุดอุโมงค์จากมุมหนึ่งของตัวเมือง เข้าไปโผล่ทะลุที่บ้านของนางกาติยานี
ตามแผนการที่วางไว้ ส่วนหัวหน้าโจรได้ไปร่วมอยู่กับพุทธบริษัทที่ฟังธรรม เพื่อทราบว่าชนพวกนี้มาประชุมกันด้วยเรื่องอะไร และเป็นการบังเอิญที่ยืนอยู่ใกล้กับนางกาติยานี

เวลานั้น นางกาติยานี ได้ใช้ให้ทาสีกลับไปบ้านเพื่อนำน้ำมันมาเติมประทีปให้เกิดแสงสว่างในบริเวณโรงธรรม นางทาสีไปถึงบ้านก็พบโจรขุดอุโมงค์ด้วยความตกใจไม่ทันได้นำน้ำ
มันออกมารีบกลับไปบอกกับเจ้านายหญิงว่า

“คุณนาย โจรเป็นอันมากเข้าไปสู่เรือน งัดประตูห้องเก็บกหาปณะแล้ว ”

อุบาสิกากาติยานี : พวกโจรจงขนเอากหาปณะที่ตนค้นพบแล้วไปเถิด เราจะฟังธรรมกถาแห่งพระเถระ เจ้าอย่าทำอันตรายแก่ธรรมของเราเลย เจ้าจงไปเรือนเสียเถิด

ฝ่ายพวกโจร ทำห้องเก็บกหาปณะให้ว่างเปล่าแล้ว จึงงัดห้องเก็บเงิน นางทาสีนั้นก็มาแจ้งเนื้อความแม้นั้นอีก อุบาสิกาพูดว่า

“พวกโจรจงขนเอาทรัพย์ที่ตนปรารถนาไปเถิด เราจะฟังธรรมกถาแห่งพระเถระ เจ้าอย่าทำอันตรายแก่เราเลย”

แล้วก็ส่งนางทาสีนั้นออกไปอีก
พวกโจรทำแม้ห้องเก็บเงินให้ว่างเปล่าแล้ว จึงงัดห้องเก็บทอง นางทาสีนั้นก็ไปแจ้งเนื้อความนั้นแก่อุบาสิกาอีก

หัวหน้าโจรซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินคำที่ทาสีบอกแก่เจ้านายหญิงเช่นนั้น ก็คิดว่า

“ถ้าหญิงนี้เชื่อคำทาสีแล้วกลับบ้านเราจะเอาดาบฟันทางให้ขาดเป็นสองท่อน แต่ถ้าไม่กลับและยังคงฟังธรรมต่อไป เราจะคืนทรัพย์สินทั้งหมดที่โจรขโมยมา จากบ้านของนางให้แก่นาง”

นางกาติยานี เมื่อฟังคำของทาสีแล้วกล่าวว่า
“นี่แม่คุณ อย่างทำเสียงดังเลย ธรรมดาพวกโจรทั้งหลายเมื่อจะลักขโมยของก็จะเลือกเอาแต่ทรัพย์สินที่ตนเห็นว่ามีประโยชน์มีคุณค่าเท่านั้น 
ส่วนเวลาที่ข้าจะได้ฟังธรรมเหมือนเช่นวันนี้หาได้ยากยิ่งนัก เจ้าอย่าทำลายเวลาฟังธรรมของข้าเลย”

หัวหน้าโจร เมื่อได้ยินคำพูดของนางกาติยานีโดยตลอดแล้วคิดว่า

“โอ! หนอ พวกเราทำกรรมหนักเสียแล้ว พวกเราพากันลักขโมยทรัพย์สินของหญิงผู้มีศรัทธามั่นคงอย่างนี้อาจถึงกับ
ธรณีสูบได้”

ทันใดนั้น เขาได้สั่งให้ลูกน้องนำทรัพย์สินของนางกลับไปคืนไว้ที่เดิมทั้งหมดแล้วพากันมายืนฟังธรรมอยู่ข้างท้ายบริษัทเมื่อจบเทศนาของพระเถระนางกาติยานีก็ดำรงค์อยู่ในโสดาปัตติผล

• พาโจรบวช
ครั้นรุ่งอรุณ หัวหน้าโจรได้พาลูกน้องทั้งหมด กราบหมอบแทบเท้าของนางกาติยานีอุบาสิกา พร้อมกับกล่าวอ้อนวอนว่า

“ข้าแต่แม่เจ้า ขอโปรดยกโทษให้พวกเราด้วยเถิด”

“อะไรกันพวกท่านทำผิดอะไรกับฉันไว้หรือ ? ”

“ข้าแต่แม่เจ้า พวกเราขุดอุโมงค์เข้าไปลักขโมยทรัพย์สินในเรือนของท่าน”

“เอาเถอะ ฉันยกโทษให้พวกท่านทั้งหมด”

“ข้าแต่แม่เจ้า ถ้าท่านยกโทษให้พวกเราจริงก็ขอให้ท่านพาพวกเราไปบวช ในสำนักของพระโกฏิกัณณโสณเถระด้วยเถิด”

นางกาติยานีอุบาสิกา ได้พาพวกโจรเหล่านั้นไปบวชตามต้องการในสำนักของพระเถระ
แล้ว และก็ได้บรรลุพระอรหัตผลด้วยกันทั้งหมด 
ต่อมา พระบรมศาสดาขณะประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร เมื่อทรงสถาปนา
อุบาสิกาทั้งหลายในตำแหน่งต่าง ๆ ได้ทรงพิจารณาปรารภความมีศรัทธาเลื่อมใสอย่างแน่น แฟ้นในพระรัตนตรัยของนางกาติยานีอุบาสิกาแล้ว

ทรงสถาปนาแต่งตั้งนางไว้ในตำแหน่ง


เอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าบรรดาอุบาสิกาทั้งหลายในฝ่าย ผู้เลื่อมใสมั่นคง

ผู้ทำความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย
เป็นเหตุให้โจรเลื่อมใสศรัทธาบวชเป็นพระสงฆ์900รูป
พระสงฆ์ทั้งหมดสำเร็จเป็นพระอรหันตผล

ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนในศรัทธาที่มั่นคงของท่านด้วยเถิดอุบาสิกา กาติยานี

แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ