อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่49 —พระมหาชนก ตอนที่ 4—

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่49

พระมหาชนกตอนที่ 4

“เธอจงวางเข็ม ทองนี้ไว้”
พระธิดารับเข็มทองไปวางไว้ที่หัวนอนบัลลังก์

พระมหาชนกทอดพระเนตรเข็มทองคำแล้วก็ตรัสว่า “ด้านนั้น เป็นหัวนอน”โดยทรงสังเกตด้านที่พระธิดาวางเข็มทองไว้ เหล่า อำมาตย์พากันทูลชื่นชมว่า “พระองค์ทรงเฉลียวฉลาดยิ่งนัก”

พระมหาชนกตรัสว่า
“เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับในข้อที่ ๓ ที่ให้ยกธนูหนัก ขอให้พวกท่านสั่งให้นำธนูนั้นมาเดี๋ยวนี้

” พระมหาชนกประทับนั่งบนบัลลังก์ สักครู่หนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ ช่วยกันยกธนูมาวางไว้เฉพาะพระพักตร์พระองค์ยกธนูที่มีน้ำหนัก มากถึงขนาดคน ๑,๐๐๐ คน

จึงจะยกขึ้นได้โดยง่ายดาย ดุจยกกงปั่น ฝ้ายของผู้หญิง เหล่าอำมาตย์และคนอื่นๆ เห็นแล้วก็พากันพิศวง งงงวย ในพละกำลังของพระมหาชนกราชไปตามๆ กัน
พระมหาชนกตรัสถึงข้อที่ ๔ ว่า

“สำหรับข้อที่ ๔ ขุมทรัพย์ ๑๓ แห่งนั้น ที่ไหนบ้างล่ะพวกท่า นอำมาตย์?”

เหล่าอำมาตย์ได้กราบทูลถึงขุมทรัพย์
๑๓ แห่ง ตั้งแต่ขุมทรัพย์ ที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ขุมทรัพย์ที่ดวงอาทิตย์ตก,

ขุมทรัพย์ภายใน, ขุม ทรัพย์ภายนอก,

ขุมทรัพย์ที่ไม่ใช่ทั้งภายในและภายนอก, ขุมทรัพย์ ขาขึ้น, ขุมทรัพย์ขาลง

, ขุมทรัพย์ที่มีไม้รั้งทั้งสี่,
ขุมทรัพย์ที่ ๑ โยชน์ โดยรอบ,
ขุมทรัพย์ที่ปลายงาทั้งสอง,
ขุมทรัพย์ที่ปลายหาง,
ขุม ทรัพย์ที่น้ำ และขุมทรัพย์ที่ปลายไม้

พระมหาชนกทรงพิจารณาถึงปัญหานี้อยู่หน่อยหนึ่ง แล้วก็ตรัส ถามว่า

“พระราชาของพวกท่านเคยนิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้ามาฉันภัต ตาหารในพระราชวังนี้บ้างหรือไม่?”

พวกอำมาตย์กราบทูลว่า “เคยนิมนต์มาให้ฉันภัตตาหารบ้าง พระเจ้าข้า”

พระมหาชนกทรงดำริว่า คำว่าดวงอาทิตย์นั้นคงมิใช่ดวง อาทิตย์ที่มองเห็นด้วยตานี้เป็นแน่

แต่คงจะหมายถึงพระปัจเจกพุทธ เจ้า เพราะมีคุณเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ ขุมทรัพย์ก็คงจะมีในสถาน ที่ที่ต้อนรับพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นแน่ จึงตรัสถามว่า

“เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายมา พระราชาเสด็จไปต้อ นรับตรงไหนเป็นประจำ?

” เมื่ออำมาตย์กราบทูลให้ทรงทราบว่าอยู่ตรงนั้น ก็รับสั่งให้ ขุดตรงนั้น แล้วก็พบขุมทรัพย์ทันที พระองค์ตรัสถามว่า

“เมื่อพระ ราชาของพวกท่านเสด็จไปส่งพระปัจเจกพุทธเจ้าเวลากลับ พระองค์ เสด็จประทับยืนตรงไหน?”
เมื่ออำมาตย์กราบทูลให้ทรงทราบ ก็รับสั่งให้ขุดจนพบขุม ทรัพย์อีก มหาชนต่างโห่ร้องเซ็งแซ่ถวายสาธุการสรรเสริญพระ ปัญญา

เกิดความปีติโสมนัสว่า ใครๆ ก็พากันเที่ยวขุดขุมทรัพย์ตรง ทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เพราะในปริศนาบอกว่าขุมทรัพย์ที่ดวงอาทิตย์ ขึ้น แต่พระเจ้ามหาชนกพบขุมทรัพย์ตรงที่พระราชาเสด็จไปต้อนรับ พระปัจเจกพุทธเจ้า

ใครๆ พากันเที่ยวขุดขุมทรัพย์ตรงทิศที่ดวงอา ทิตย์ตก เพราะในปริศนาบอกว่าขุมทรัพย์ที่ดวงอาทิตย์ตก เพราะ
ในปริศนาบอกว่าขุมทรัพย์มีดวงอาทิตย์ตก แต่พระเจ้ามหาชนก พบขุมทรัพย์ตรงที่พระราชาเสด็จไปส่งพระปัจเจกพุทธเจ้า

“โอ ช่างน่าอัศจรรย์หนอ พระมหาชนกทรงพระปรีชายิ่งนัก”

ส่วนขุมทรัพย์อื่นๆ พระมหาชนกรับสั่งให้ขุดดังนี้

ขุมทรัพย์ภายนอก รับสั่งให้ขุดบริเวณภายนอกพระธรณีของ พระทวารใหญ่ (ประตูใหญ่)

ขุมทรัพย์ไม่ใช่ภายในและภายนอก รับสั่งให้ขุดบริเวณ ภายนอก รับสั่งให้ขุดบริเวณข้างล่างพระธรณี พระทวารใหญ่

ขุมทรัพย์ขาขึ้น รับสั่งให้ขุดบริเวณเลยที่ประทับเสด็จขึ้นช้าง มงคลหัตถี
ขุมทรัพย์ขาลง รับสั่งให้ขุดบริเวณที่ขุมทรัพย์ที่ไม้รังทั้งสี่

รับสั่งให้ขุดบริเวณใต้เท้าพระแท่นบรรทมอันทำมาจากไม้รัง ซึ่ง ตั้งจากพื้นดินขึ้นมา
ขุมทรัพย์หนึ่งโยชน์โดยรอบ รับสั่งให้ขุดบริเวณพระที่สิริไสยา สน์ (ที่นอน) โดยรอบประมาณชั่วแอก

ขุมทรัพย์ที่ปลายงาทั้งสอง รับสั่งให้ขุดบริเวณที่งาทั้งสอง รับสั่งให้ขุดบริเวณที่งาทั้งสองของช้างมงคลหัตถียื่นออกไป
ขุมทรัพย์ที่ปลายทาง รับสั่งให้ขุดบริเวณที่ปลายทางของช้า งมงคลหัตถีเหยียดออกไป

ขุมทรัพย์ที่น้ำ รับสั่งให้ขุดบริเวณสระบัว
ขุมทรัพย์ที่ปลายไม้ รับสั่งให้ขุดบริเวณโคนไม้รังใหญ่ในพระ ราชอุทยาน โดยถือเอาเงาไม้ในเวลาเที่ยงวัน ปลายไม้เป็นเงาปกอยู่ ที่โคนต้น

ทุกที่ทุกแห่งที่รับสั่งให้ขุด ปรากฏว่าพบขุมทรัพย์ทั้งสิ้นไม่มีผิด พลาดเลยแม้แต่นิดเดียว

พระมหาชนกราชรับสั่งให้นำขุมทรัพย์ทั้งหมดมารวมกันแล้ว ก็ตรัสถามอำมาตย์ทั้งหลายว่า

“ยังมีปริศนาหรือปัญหาอื่นๆ อีกหรือไม่?”
อำมาตย์ทั้งหลายกราบทูลว่า “ไม่มีแล้วพระเจ้าข้า”

มหาชนต่างเริงร่ายินดีปรีดาว่า

“โอ! หนอ! ช่างอัศจรรย์ พระมหาชนกทรงปราดเปรื่องเรื่อง ปัญหาจริงๆ”

เป็นอันว่า พระมหาชนกก็สามารถทำตามเงื่อนไขทั้งหมดที่พระ ราชาองค์ก่อนได้ทรงตั้งไว้จนหมดสิ้นทุกข้อ ทั้งๆ ที่ตามเงื่อนไขให้ ทำเพียงข้อใดข้อหนึ่ง
แต่พระมหาชนกกลับทำเสียหมดทุกข้อทีเดียว นับว่าทรงเป็นยอดคนเก่งที่ยากจะหาผู้เทียมทานได้ พระมหาชนก ขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน

ก็ทรงคิดถึงพระมารดาและพราหมณ์ทิศาปาโมกข์ลุงผู้ใจดี จึงโป รดให้เสนาพฤฒาจารย์ไปเชิญ แต่กาฬจัมปากะนครทรงทำการบู ชาฉลองเป็นการใหญ่

พระองค์ได้กราบทูลพระมารดาว่า “พระมารดา บัดนี้ลูกได้นำ ราชสมบัติของพระบิดากลับคืนมา

แม่ชี ทศพร วชิระบำเพ็ญ