อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่20——-พลาด——

อ่านหนังสือวันละหน้า หน้าที่20

——-พลาด——

คน..คนหนึ่งที่เคยทำผิดพลาดตลอดชีวิต
แค่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ได้ทำงานพระ
ศาสนาเพื่อให้คนรุ่นหลังรู้จักใช้เวลา
และโอกาสให้เป็นประโยชน์

วิปัสสนากรรมฐานเท่านั้นที่จะทำให้เกิดความสงบสุข..เมื่อทุกคนเรียนรู้ก็จะมีที่พึ่ง
ช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ขาดสติ

แม่ชีไม่เคยรู้ว่าวัดพิชัยญาติมีพระสงฆ์
สามเณรกี่องค์ ไม่เคยรู้ว่าท่านอยู่ที่ไหนอย่างไร บางวันทำวัตรเช้ากับหลวงพ่อสมเด็จแค่สองคน..แม่ชีจะบอกว่าแม่ชีไม่เคยอยากรู้อยากเห็นเรื่องในวัดเลย

มีเรื่องเกิดขึ้นทุกวันเรื่องขายของในวัด
แม่ชีสร้างมินิมาร์ทให้วัดขายของใช้สำหรับ
คนปฎิบัติ..คนขายเป็นลูกศิษย์บวชที่วัด
เป็นจิตอาสาขอดูแล..แม่ชีลงทุนซื้อของ
ตกลงกันว่าต้องเอาเงินทั้งหมดให้ทางวัด
ให้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน

ไม่เป็นไปตามข้อตกลงทั้งทุนทั้งกำไร..
เธอเก็บไว้คนเดียว..แม่ชีให้ออกไม่ต้องขาย
เธอไปขอหลวงพ่อสมเด็จอยู่ต่อ..
แล้วทำเหมือนเดิมมีเพิ่มเติมใครเอาของมาถวายก็เอาไปขายไม่ต้องลงทุน

ตู้หนังสือมีปัญหาเพราะคนดูแลตู้หนังสือ
ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน
พูดจา..ยโสและโอหังไม่เกรงกลัวใคร
คนขายหนังสือคิดว่าตัวเองเป็นคนหาเงิน
ให้แม่ชีทำบุญกับวัดมีความยึดมั่นถือมั่น
ว่าตนเองเป็นคนสำคัญ

แม่ชีเรียกมาตักเตือนว่าอย่าพูดเยอะ..ไม่ต้องโอ้อวดว่าแม่ชีปาฎิหาริย์..และให้ระวัง
เรื่องขายของอย่าเอาอะไรที่ไม่ใช่ของแม่ชีมาวางมันเป็นการหลอกลวง

มีคนมาบอกให้แม่ชีระวังเรื่องเงินทอง..
แม่ชีว่า..แม่ชีไม่คิดเยอะเอาแค่ที่ได้
วัดมีแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์..แม่ชีก็เป็นตัวอย่างให้ดูทุกวัน.
คนจะดีมันต้องมีสำนึกที่ดี..

ทำไมแม่ชีไม่ให้ลูกแม่ชีขาย..
เห็นเขาไม่มีอาชีพ..ไม่มีงานทำ
อนุเคราะห์คิดว่าคนเรามันต้องดีได้..
เชื่อใจ..ไม่เคยมีความสงสัย
กลายเป็นว่าทุกอย่างที่มีรายได้
แม่ชียึดหมดทั้งวัด

รู้สึกว่าข้อสอบมันยากเหลือเกินกับคนใกล้ตัว..
เหมือนไม่อยากทนกับเรื่องแบบนี้
ไปอยู่ที่ไหนก็เรื่องเงินเรื่องทอง..ทำข้อสอบ
ข้อนี้ข้อเดียวรู้สึกมัน..เสียเวลามาก

แม่ชีไม่มีญาติ..เคยร้องไห้กับเฮียโส่ย..เฮีย
โส่ยบอกแม่ร้องออกมาให้หมด..เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป..แม่มีอะไรให้ผมช่วยแม่บอกผมได้ตลอดเวลา
————————————-
หลวงพ่อสมเด็จเดินทางพบเจ้าคณะจังหวัด
ทุกจังหวัดให้เข้าร่วมโครงการวิปัสสนากรรมฐาน..ต่างคนต่างทำไม่มีเวลาหรือโอกาสที่จะพูดคุยเรื่องการทำงาน

หลวงพ่อสมเด็จท่านเคยพูดว่า..เงินในย่ามที่คนใส่ย่ามทำกับแกเป็นเงินที่แกสามารถใช้อะไรก็ได้..ส่วนเงินบริจาคในตู้เป็นเงินของวัด

แต่ความจริงแล้วเงินในย่ามเยอะกว่าเงินในตู้หลายเท่า..แม่ชีจึงให้คนเอาย่ามไปถวาย
หลวงพ่อสมเด็จทุกย่ามเมื่อเสร็จงาน..
ส่วนคนที่เอาไปถวายจะนำไปถวายหลวงพ่อสมเด็จทั้งหมดหรือไม่..แม่ชีไม่เคยสงสัย

เพราะความสงสัยทำให้แม่ชีหลงทาง

โครงการวิปัสสนากรรมฐานนิสิตปริญญาโทเริ่มขึ้นเมื่อวันเข้าพรรษาปี2550
หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธชินวงค์ทำหนังสือเชิญวิปัสสนาจารย์เจ้าสำนักงุยเตาอูกัมฐาน
ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมาร์มาเป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ

แม่ชีอุปถัมภ์ปัจจัยสี่..แก่พระอาจารย์และพระนิสิต คนมาทำบุญในโครงการมีพระของสำนักปฎิบัติธรรม ธรรมโมลี เป็นคนทำ
บัญชีรายรับ..ส่วนรายจ่ายตั้งแต่พ.ศ.2547
แม่ชีรับผิดชอบทุกรายจ่ายของสำนัก

ลุงอนันต์และป้าตึ๋งเข้ามาถวายความอุปถัมภ์..เครื่องกรองน้ำ ..ที่นอน.ติดผ้าม่านรอบศาลาทั้งสองชั้น.อีกหลายรายการที่ต้องสร้างเข้าศาลาใหม่แกะกล่อง

ค่าอาหาร..ค่าน้ำค่าไฟ..มีครอสปฎิบัติกี่ครั้งในทุกเดือนแม่ชีรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
การก่อสร้างเพิ่มเติมอาคารหลังเก่าติดแอร์
เปลี่ยนหม้อแปลงไฟ..ซ่อมบำรุงแม่ชีก็เป็นคนจ่าย..ไม่มีใครเรียนให้หลวงพ่อสมเด็จทราบว่าแม่ชีทำอะไรบ้าง..ที่เขาใหญ่

เมื่อมีโครงการนี้เกิดขึ้นก็มีผู้ปรารถนาดีเข้ามาสังเกตุการณ์..แสดงตัวเพื่ออุปถัมภ์โครงการ..การมีวิถีจิตที่หยั่งรู้ทำให้แม่ชี
เตรียมใจ

มีคนมาไล่แม่ชีทุกวันเมื่อไหร่จะไปจากเขาใหญ่เสียที..ผมทำงานไม่ได้ช่วยออกไปเถอะนะ..มีตัวแสดงเพิ่มเข้ามา..พูดเรื่องทำอาหารสกปรกครัวไม่สะอาด..ธรรมดาก็เป็นคนอดทนอยู่แล้วเจอแบบนี้..ก็ต้องคูณความอดทนเพิ่มขึ้น

แม่ชียังคงทำหน้าที่อย่างอดทนไม่ให้
ความโกรธโลภหลงมาทำให้แม่ชีหมดโอกาสในการทำงาน

ค่าอาหารแต่ละวันที่ตั้งไว้สำหรับคนทำบุญ
เป็นช่องทางให้คนเหล่านี้เข้ามายึดพื้นที่

คิดว่าแม่ชีเบิกเงินจากสำนักต้องมีรายได้
มหาศาล..เปล่าเลยพวกคุณต่างหากที่กำลังจะทำแบบนั้น หลายคนเข้ามาพูดว่า..อะไรๆ
ก็แม่ชีสร้างเอารูปแม่ชีออกไปไม่ให้มีรูปแม่ชีคนนี้

คนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามามีบทบาทในวัดตามแผนกต่างๆ..ตามมาไล่พี่แขกที่เขาใหญ่ขณะที่พี่แขกทำอาหารถวายพระมาตลอดสามเดือน
เมื่อไหร่จะไปกันซักทีแปลกไล่ก็ไม่ไป..เขาให้มาไล่พวกแกเมื่อไหร่จะไป..หน้าด้านจริงๆ

แม่ชีโกรธเขามั้ย..ที่เขามาไล่แบบนี้
ถูกไล่วันแรกก็รู้ว่าคนพวกนี้จะมาหาผลประโยชน์..รู้เข้าไปในจิตของทุกคน
เหมือนน้ำหยดลงหินทุกวัน..
เกิดความหวั่นไหวในใจ..จนอุปทานแทรก
เข้ามาในความนึกคิด

เมื่อวันทอดกฐินมาถึง..เห็นหลวงพ่อสมเด็จ
แม่ชีรู้สึกเสียใจมากทำไมหลวงพ่อให้คนมาไล่ทุกวัน..
นี่คือข้อสอบชุดใหญ่ที่แม่ชีได้รับทุกวัน
ไล่กันทุกวันซ้ำๆทำให้จิตปรุงแต่ง..ถ้าหลวงพ่อไม่ให้เขามาไล่..ใครจะกล้า

ทอดกฐินเสร็จแม่ชีเข้าไปกราบหลวงพ่อด้วยความเสียใจว่า..ฉันขอพักงานหนึ่งปี

หลวงพ่อสมเด็จนิ่งไม่พูดอะไร

แม่ชีรอกราบเมื่อท่านจะกลับ..ท่านเดินเซ
เหมือนไม่มีแรง..

แม่ชีรู้เดี๋ยวนั้นเลยว่าทุกคนกำลัง

พยายามทำให้แม่ชีเป็นศัตรูกับหลวงพ่อ
ฉันไม่เคยคิดที่จะทิ้งหลวงพ่อสมเด็จเลย..
แต่ฉันไม่กล้าถามหลวงพ่อหรอกว่า..

หลวงพ่อให้คนมาไล่ฉันทำไม
ฉันไม่เคยทำอะไรผิด
ฉันขอพักเท่านั้น..ฉันเหนื่อยที่ต้องทำ..
เป็นไม่รู้..ในขณะที่ฉันรู้ว่าทุกคนมาเพื่ออะไร

สุขภาพทรุดโทรม

นอนอยู่ในกุฎิวัดพิชัยญาติหนึ่งเดือนเต็ม
โดยไม่มีใครรู้..ได้ยินเรื่องราวมากมาย
ได้รู้จักคนในอีกมุมที่เราไม่เคยรู้จัก

โรคปวดหัวเกิดขึ้นอย่างรุนแรงทำให้อาเจียนพุ่งเป็นพญานาค..เป็นอัมพฤก
ปากเบี้ยวหลับตาไม่ได้น้ำลายไหล
เข้ารักษาตัวทันที..

นอนโรงพยาบาลเป็นเดือนอาการปวดหัวเริ่มทุเลา..เข้าออกโรงพยาบาลประมาณสามเดือนอัมพฤกค่อยๆหายเป็นปรกติ

ค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินจำนวนมาก..
มีลูกศิษย์และพี่ดาวพี่หนุ่มเป็นผู้ดูแล
ยามป่วยไข้..ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้ง
หมุนเวียนกันเป็นผู้อุปถัมภ์

เข้าพบหลวงพ่อสมเด็จขอเข้าทำงานวัดพิชัยญาติ ท่านคงสงสัยที่แม่ชีลางาน
แล้วจะกลับมาทำอะไร..กำลังจะกราบเรียน
ท่านว่าแม่ชีลางานเฉพาะที่เขาใหญ่
ยังไม่ทันได้พูด..
หลวงพ่อสมเด็จว่า..ยังไม่มีอะไรให้ทำ..
————————————

วันวางศิลาฤกษสร้างศาลาหลังวัด..
สมเด็จเกี่ยววัดสระเกศเสด็จวางศิลาฤกษ..
แม่ชียืนตัวสั่นรอ..สมเด็จเกี่ยวเสด็จ
ไม่มีแรงจะยกมือพนม..มือสั่น..ยืนไม่ไหว

ร่างกายแม่ชีป่วยมาก..
คิดว่ากายนี้ไม่ใช่ของเราก็แค่สมมุติ
โรคภัยไข้เจ็บรุนแรงแค่ไหนก็ทำอะไร
เราไม่ได้..ถ้าใจไม่ปรุงแต่ง
แม่ชีไม่สบายมากเป็นไทรอยค์เป็นพิษ
สาเหตุเกิดจากการพักผ่อนไม่พอ

นั่งอยู่ในงานวันนั้นสมเด็จเกี่ยวท่านถามว่า
เขาใหญ่ไปถึงไหนแล้วหลวงพ่อติดตามข่าว
โยมแม่ชีรักษาสุขภาพนะ

งานเสร็จพระสงฆ์ฉันเพลที่บ้านโยมหลังวัด
ก่อนแม่ชีเดินเข้ากุฎิ..

มีคนเอาข่าวมาบอก

มีข่าวมาจากที่งานหลังวัดว่าแม่ชียักยอกเงินผ้าป่าหลายแสนบาท..แม่ชีคิดทันทีว่า

—ความจริงศักดิ์สิทธิ์ที่สุด–

ไม่มีใครทำอะไรเราได้เมื่อเราไม่ใช่ผู้ทำ

จะเกิดอะไรขึ้นสิ่งเดียวที่ต้องมีสิ่งแรกคือสติ

มีแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือ
และการไปออกทีวี..เพียงให้ทุกคนรู้จักกรรม..เป็นอุบายให้คนฉุกคิดว่า..
ทำอะไรไว้ต้องรับ..ทุกอย่างที่ทำ

เพื่อให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานรู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ ศีล5 สำคัญที่สุดในยุค
ที่ความเจริญของเครื่องมือสื่อสารพูดแทน

นี่คือการปฎิบัติธรรมใช้ชีวิตกระทบกับ
อารมณ์วิปัสสนากรรมฐาน
ตามเส้นตรง..กาย เวทนา จิต ธรรม
ไม่เคยหนีการสอบ.เข้าสอบทุกครั้ง
ทำทุกข้อสอบ..พยายามทำให้ผิดน้อยที่สุด
เรียนรู้ด้วยตัวเองว่าการสอบให้ติดเกียรตินิยมมันยากมาก

บอกทางรายการเลิกออกรายการชั่วโมงพิศวง..ย กเลิกรายการเกิดแต่กรรม
..
เหตุผลส่วนตัว.เลิกเพราะรู้สึกว่าพอแล้ว
มีคนถามถึงรายได้ที่ไปออกโทรทัศน์
จะอัดกี่เทปก็สองพันค่ะเป็นค่ารถ

ได้ธรรมมะข้อหนึ่งว่าพระธรรมของพระพุทธเจ้าขายไม่ได้..
แม่ชีบอกได้เต็มปากว่าแม่ชีไม่เคยเอาเงินที่เขียนหนังสือมาใช้เรื่องส่วนตัว

หนังสือก่ีเล่มที่เขียนมาจำหน่ายเป็นเงิน
สร้างบุญในพระพุทธศาสนา.มหาศาล
เฉพาะที่ขายในวัดเท่านั้น..

ชีวิตยังคงดำเนินต่อไปข้อสอบก็มีมาเสมอ
จับทุกเรื่องรวมไว้เป็นครู..ไม่เบื่อไม่รำคาญ
มีวาสนาต่อกันก็ได้พบกัน.จะใช้เวลาเท่าไหร่ก็ไม่ยึดไว้..เตรียมพร้อมกับความไม่เที่ยงเสมอ..อะไรก็เกิดขึ้นได้..

ขณะที่ตื่นรู้ทุกย่างก้าวยังพลาดบ่อยขนาดนี้
ต้องระวังจิตไว้ให้ปลอดภัยจากการปรุงแต่ง

หนังสือหน้านี้แม่ชีจะให้อะไรกับคนอ่าน
ให้ความรู้ว่า..การทำงานร่วมกัน..ต้องมี
การชี้แจงต้องมีการประชุม..สอบสวนที่มา
ที่ไป..เพื่อแก้ไขให้องค์กรก้าวหน้า..ไม่ใช่
เพื่อหาคนผิด..แต่เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในหน่วยงาน..

แม่ชีพลาดที่ไม่เคยรายงานไม่เคยเข้าประชุม..
เป็นช่องว่างให้คนเกิดความโลภในที่สุดก็พัง..

แม่ชี ทศพร วชิระบำเพ็ญ