วันเสาร์ที่11กรกฎาคม 2563

วันเสาร์ที่11กรกฎาคม 2563
กราบรับพรพร้อมกันค่ะ
ถวายสังฆทานภัตตาหารแก่พระสงฆ์สามเณรวัดดงก้าวกัลยาราม อุทยานธรรมดงยาง ต.คลีกลิ้ง อ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ
สำนักปฎิบัติธรรมบ้านเพชรบำเพ็ญ
พุหวายหมู่6 ต.ห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ
จ.เพชรบุรี 
สำนักปฎิบัติธรรมวิโรจนาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
รวมพระสงฆ์สามเณร อุบาสก อุบาสิกา
จำนวน400รูป/คน
ภัตตาหารที่ถวายวันนี้

..อุทยานธรรมดงยาง..
: ต้มเค็มขาหมูถั่วลิสง
: ต้มยำกุ้ง 
: กะเพราไก่
: ไข่ดาว
: แจ่วมะเขือเทศ ผักสด 
: เนื้อย่าง
: ข้าวเหนียว-ข้าวเหนียว
: ขนมหวาน ลอดช่องสิงคโปร 
: ผลไม้ แตงโม 

..บ้านเพชรบำเพ็ญ..
: ข้าวต้มปลาดอลลี่
: ผัดกะเพรารวมทะเล
: ต้มจืดหน่อไม้สดกะดูกอ่อน
: ผัดถั่วงอกเต้าหู้ทรงเครื่อง
: ยำวุ้นเส้นหมูสับหมึกกุ้ง
: ไข่ดาว
: สลัด 
: โดนัท
: ผลไม้ แคนตาลูป แตงโม องุ่น
———-


น้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย
ตั้งนะโม3จบ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี
 สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

อะทินนาทานา เวระมะณี 
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี 
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

มุสาวาทา เวระมะณี 
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฎฐานา 
เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

อิมานิปัญจะสิกขาปะทานิ สมาธิยามิ
อิมานิปัญจะสิกขาปะทานิ สมาธิยามิ
อิมานิปัญจะสิกขาปะทานิ สมาธิยามิ

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าข้าพเจ้ามีศรัทธาตั้งมั่นในคุณของพระรัตนตรัย
และมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

ข้าพเจ้าทำหน้าที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในฐานะอุบาสก อุบาสิกาในพระพุทธศาสนาน้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่คุณพระศรีรัตนตรัยด้วยปฎิบัติบูชานี้

ทรัพย์ในทานของข้าพเจ้าบริสุทธิ์ดีแล้ว

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญข้าพเจ้าขอน้อมถวายสังฆทานภัตตาหารแก่พระสงฆ์หมู่ใหญ่ผู้เป็นเนื้อนาบุญในทิศทั้งสี่ ขอพระสงฆ์จงโปรดรับซึ่งภัตตาหารพร้อมทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ของข้าพเจ้าบริสุทธิดีแล้ว จงเป็นไปเพื่อการเจริญสมถะและวิปัสสนากัมมัฎฐานตลอดพรรษา

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญกุศลผลบุญใดที่ท่านเพ่งเพียรเจริญภาวนาจนเกิดสภาวะธรรม เกิดปัญญา ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ

ขออนุโมทนากับเจ้าภาพที่ร่วมบุญทุกท่าน ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนส่วนในบุญของท่านด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ
———————————
วันหนึ่งขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ เชตวัน ของอนาถบิณฑกะ 

เทวดาได้มาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ โดยแปลงกายเป็นพราหมณ์ที่มีใบหน้าสว่างสไว สวมชุดสีขาวราวหิมะ 

เทวดาทูลถามปัญหาต่อพระพุทธเจ้าว่า
“อะไรคือดาบที่คมที่สุด 
อะไรคือยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด 
อะไรคือไฟที่ร้ายที่สุด 
อะไรคือคืนที่มืดที่สุด”

พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า :
“วาจาที่กล่าวด้วยความโกรธคือดาบที่คมที่สุด 
ความโลภคือยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด 
ความปรารถนาคือไฟที่ร้ายที่สุด 
ความหลงผิดคือคืนที่มืดที่สุด”

เทวดาทูลถามว่า 
“ใครคือผู้ที่ได้มากที่สุด 
ใครคือผู้ที่เสียมากที่สุด 
อะไรเป็นเกราะที่แข็งแกร่งที่สุด  
อะไรคืออาวุธที่ดีที่สุด”

พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า 
“คนที่ให้คือคนที่ได้มากที่สุด 
คนที่เอาแต่ได้โดยไม่ตอบแทน 
คือคนที่เสียมากที่สุด 
ความอดทนคือเกราะที่แข็งแกร่งที่สุด 
ปัญญาคืออาวุธที่ดีที่สุด

เทวดาทูลถามว่า 
“ใครคือโจรที่อันตรายที่สุด 
อะไรคือทรัพย์ที่มีค่าที่สุด 
ใครที่สามารถที่สุดในการยึดครอง
ไม่ว่าบนโลกหรือสวรรค์ 
อะไรคือขุมทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุด

พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า 
“ความคิดร้ายคือโจรที่อันตรายที่สุด 
คุณธรรมคือทรัพย์อันมีค่าที่สุด 
ใจคือผู้ยึดครองทุกสิ่งไม่ว่าบนโลกนี้หรือสวรรค์ 
อมตะนิพพานคือขุมทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุด

เทวดาทูลถามว่า 
“อะไรคือสิ่งที่น่ารัก 
อะไรคือสิ่งที่น่ารังเกียจ 
อะไรคือความทุกข์ทรมานที่น่ากลัวที่สุด 
อะไรคือความสุขที่สุด”

พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า 
“ความดีคือสิ่งที่น่ารัก 
ความชั่วคือสิ่งที่น่ารังเกียจ 
มิจฉาสติคือความทุกข์ทรมานที่น่ากลัวที่สุด 
ความหลุดพ้นคือความสุขที่สุด”

เทวดาทูลถามว่า 
“อะไรทำให้โลกพินาศ 
อะไรที่ทำลายมิตรภาพ 
อะไรคือไข้ที่ร้ายแรงที่สุด 
ใครคือแพทย์ที่ดีที่สุด”

พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า 
“อวิชชา (ความไม่รู้แจ้ง) ทำให้โลกพินาศ 
ความริษยาและความเห็นแก่ตัวทำลายมิตรภาพ 
ความเกลียดชังคือไข้ที่ร้ายแรงที่สุด และ 
พระพุทธเจ้าคือแพทย์ที่ดีที่สุด”

เทวดาจึงทูลว่า 
“บัดนี้ข้าพเจ้ายังมีข้อสงสัยอีกข้อหนึ่ง ที่ต้องการคำตอบให้แจ่มแจ้ง อะไรที่ไม่ไหม้ด้วยไฟ ไม่สลายด้วยน้ำ ไม่แตกกระจายด้วยลม แต่สามารถเปลี่ยนโลกนี้ได้”

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ผลแห่งกรรมดี ไม่ว่า ไฟ น้ำ หรือ ลม ก็ทำลายผลแห่งกรรมดีไม่ได้ และผลแห่งกรรมดีสามารถเปลี่ยนโลกได้”

เทวดาเมื่อได้สดับดังนี้ ก็เกิดปิติเป็นล้นพ้น ประณมหัตถ์น้อมลงถวายอภิวาทต่อพระบรมศาสดา และร่างเทวดาก็หายไปจากตรงนั้น

สาธุ สาธุ สาธุ
แปลโดย โสพิศ

ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ