วันวิสาขบูชา ตอนที่ ๘ “ปัญจมหาสุบินนิมิต”

 

วันวิสาขบูชา ตอนที่ ๘ “ปัญจมหาสุบินนิมิต” ความฝันมหามงคล ๕ ประการ

ในราตรีของวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา คืนก่อนจะได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียง ๑ คืน ทรงพระสุบินนิมิต ๕ ประการ เรียกว่า “ปัญจมหาสุบินนิมิต”

เมื่อพระบรมโพธิสัตว์ตื่นบรรทม ทรงทำนายมหาสุบินนิมิตด้วยพระองค์เอง ครั้นทราบด้วยปัญญาว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงเบิกบานพระทัย เมื่อทรงปฏิบัติภารกิจส่วนพระองค์ สระสรงพระวรกายหมดจดดีแล้ว จึงเสด็จไปประทับ ณ ร่มไม้นิโครธพฤกษ์ (ต้นไทร) ในยามเช้าแห่งวันเพ็ญวิสาขปรุณมีดิถี หรือวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำกลางเดือน ๖ ซึ่งบางตำราบอกว่าตรงกับปีระกา ความฝันอันเป็นมหามงคล พร้อมคำทำนายของพระอรรถกถาจารย์มีดังนี้

๑. ฝันว่า ทรงบรรทมหงายอยู่เหนือพื้นแผ่นดินนี้
ใช้พื้นพสุธาเป็นพระแท่นบรรทม (เตียงนอน)
เอาเทือกเขาหิมาลัยเป็นพระเขนย (หมอนหนุน)
พระหัตถ์ซ้ายพาดไปทางมหาสมุทรด้านตะวันออก
พระหัตถ์ขวาพาดไปทางมหาสมุทรด้านตะวันตก
พระบาททั้งสองพาดยาวไปทางมหาสมุทรด้านใต้

มีความหมายว่า จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้เลิศในโลก ทั้ง ๓ อัน ได้แก่ เทวโลก มนุษย์โลก และพรหมโลก

๒. ฝันว่า มีต้นหญ้าแพรกเกิดขึ้นที่พระนาภี (สะดือ) สูงใหญ่ทะลุเมฆ

มีความหมายว่า จะได้ทรงประกาศสัจธรรมเผยแผ่อริยมรรคมีองค์ ๘ หรือ มรรค ผล นิพพาน แก่เหล่าเทพยดาและมนุษย์ทั้งมวล

๓. ฝันว่า มีหนอนสีขาวจำนวนมากไต่ตามพระบาทจนท่วมพระชานุ (เข่า)
มีความหมายว่า เหล่าคฤหัสถ์ พราหมณ์และชนทั้งหลายจะเข้ามาสู่สำนักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอันมาก และจะรับพระไตรสรณคมน์ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง

๔. ฝันว่า มีฝูงนก ๔ จำพวก มีสีต่างๆ กัน คือ สีเหลือง เขียว แดง ดำ

บินมาจากทิศทั้ง ๔ มาเกาะที่พระบาท น้อมคำนับแล้วกลายเป็นสีขาวหมด

มีความหมายว่า ชาวโลกทั้งหลายทุกชั้นทุกวรรณะ คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ และศูทร เมื่อมาสู่สำนักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จะได้รู้ธรรมอันบริสุทธิ์หมดจดผ่อนใสโดยเท่าเทียมกัน

๕. ฝันว่า ทรงดำเนินจงกรมบนยอดภูเขาอันเต็มไปด้วยกองอุจจาระ
แต่พระบาททั้งสองไม่ได้แปดเปื้อนด้วยกองคูถเลย

หมายความว่า แม้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะบริบูรณ์ด้วยลาภสักการะและปัจจัยทั้ง ๔ ที่ชาวโลกจากทุกทิศ น้อมนำมาถวายด้วยความเลื่อมใส ศรัทธา แต่พระองค์ก็มิได้มีพระทัยข้องอยู่ในลาภสักการะนั้นให้เป็นมลทินแม้แต่น้อย

สาเหตุแห่งความฝัน
๑. กรรมนิมิต กรรมดีหรือชั่วในอดีต จะมาให้ผล
๒. จิตอาวรณ์ จิตไปผูกพันอยู่กับสิ่งใดมากๆก็อาจฝันถึงสิ่งนั้นได้
๓. เทพสังหรณ์ เทวดานำข่าวมาบอก อาจเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายก็ได้
๔. ธาตุกำเริบ ร่างกายไม่ปกติ อาจทำให้ฝันไปได้แปลกๆ เพราะ ธาตุลมแปรปรวน เป็นต้น เป็นเหตุทำให้กำเริบย่อมฝัน เพราะ
ธาตุกำเริบ และเมื่อฝัน ย่อมฝันหลายอย่าง เช่น ฝันว่าตกจากภูเขา ว่าไปทางอากาศ ว่าถูกเนื้อร้าย ช้างและโจรเป็นต้นไล่ตาม
๕.เพราะเคยเป็นมาก่อน ย่อมฝันถึงอารมณ์เป็นมาแล้วในกาลก่อน อาจเป็นในอดีตชาตินี้ หรืออดีตชาติที่ผ่านมาก็ได้
๖.เพราะบุรพนิมิต เมื่อฝันโดยบุรพนิมิต (ลางบอกเหตุล่วงหน้า) ย่อมฝันอันเป็นบุรพนิมิตของประโยชน์หรือของความพินาศที่ประสงค์จะเกิดด้วยอำนาจบุญและบาป เหมือนพระชนนีของพระโพธิสัตว์ ได้นิมิตในการได้พระโอรส เหมือนพระเจ้าโกศล ทรงฝันเห็นสุบิน ๑๖ และเหมือนพระโพธิสัตว์ทรงมหาสุบินนิมิตร ๕ ประการนี้

ไม่มีความบังเอิญใดในโลกนี้ ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุ

แม่ชี ทศพร วชิระบำเพ็ญ