วันจันทร์ที่14กุมภาพันธ์2565

วันจันทร์ที่14กุมภาพันธ์2565

เป็นผู้แทนลูกหลาน
ทอดผ้าป่าบังสกุลอุทิศให้อาม่าลั้ง โล่วรรธนะมาศ
คุณพ่อจิตติ คุณแม่พิศพร จรรยาเลิศอดุล

ถวายน้ำดื่ม4,800ขวดสำนักวิโรจนาราม งูเตาอูกัมมัฏฐาน
อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ถวายน้ำดื่ม4,800ขวดแก่โครงการจัดตั้ง
โรงเรียนสามเณรสีหะศากยะบุตร อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

ถวายน้ำดื่ม4,800ขวดแก่พระสงฆ์สามเณรวัดเกาะสุวรรณาราม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

เป็นผู้แทนเจ้าภาพ
ถวายมหาสังฆทานแก่พระสงฆ์สามเณร
อุบาสก อุบาสิกา ผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรม
ณ.อุทยานธรรมดงยาง ต.คลีกลิ้ง
อ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ

เป็นผู้แทนเจ้าภาพ
ถวายมหาสังฆทานแก่พระสงฆ์หมู่ใหญ่
เข้าฝึกอบรมท่องจำพระปาติโมกข์
ณ.วัดนาแก ต.นาแก
อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร

เป็นผู้แทนเจ้าภาพ
ถวายมหาสังฆทานแก่พระสงฆ์สามเณร
อุบาสก อุบาสิกา ผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรม
ณ.วัดดงก้าวกัลยาราม ต.คลีกลิ้ง
อ.ศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ

เป็นผู้แทนเจ้าภาพ
ถวายมหาสังฆทานแก่พระสงฆ์สามเณร
อุบาสก อุบาสิกา ผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมงานปริวาสกรรมประจำปี2565
ณ.วัดโนนกุดหล่ม ต.เขวา อ.เมือง
จ.ศรีสะเกษ

เป็นผู้แทนเจ้าภาพ
ถวายมหาสังฆทานแก่พระสงฆ์สามเณร
วัดป่ากตัญญุตาราม อ.พนพไพร
จ.ร้อยเอ็ด

น้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่คุณพระศรีรัตนตรัย เพื่อประโยชน์เพื่อความเจริญ
รุ่งเรีองแก่พระพุทธศาสนาสืบต่อไป

ขออนุโมทนาบุญกับทุกบาททุกสตางค์

สาธุ สาธุ สาธุ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน คาถาธรรมบท ว่า

                        “สีลทสฺสนสมฺปนฺนํ      ธมฺมฏฺฐํ สจฺจวาทินํ
                         อตฺตโน กมฺมกุพฺพานํ   ตํ ชโน กุรุเต ปิยํ

 ชนย่อมกระทำบุคคล ผู้สมบูรณ์ด้วยศีลและทัสสนะ ผู้ตั้งอยู่ในธรรม ผู้พูดคำจริงเป็นปกติ ผู้ทำงานอันเป็นหน้าที่ของตน ให้เป็นที่รัก”

วันหนึ่ง พระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์จำนวน ๕๐๐ รูป และพระอสีติมหาเถระ เสด็จไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ พระพุทธองค์ทอดพระเนตรเห็นเด็กประมาณ ๕๐๐ คน ถือขนมออกจากเมืองไปยังสวนแห่งหนึ่ง เพื่อขายในงานมหรสพ เด็กๆ เห็นพระศาสดา จึงถวายบังคมแล้วเดินจากไป มิได้ถวายขนมแด่พระพุทธองค์หรือภิกษุสงฆ์แต่อย่างใด 

พระบรมศาสดาตรัสกับพระภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอต้องการฉันขนมไหม”
“ขนมที่ไหน พระเจ้าข้า” พวกภิกษุทูลถาม

 พระบรมศาสดาตรัสว่า

“เธอทั้งหลายไม่เห็นพวกเด็กที่ถือกระเช้าขนมเดินผ่านไปหรือ”
พวกภิกษุกราบทูลว่า “เห็นพระเจ้าข้า แต่พวกเด็กเหล่านั้นคงไม่ถวายขนมให้ใครๆ หรอก พระเจ้าข้า”

พระศาสดาตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย แม้เด็กเหล่านั้นไม่นิมนต์เราหรือพวกเธอให้รับขนมก็ตาม แต่ภิกษุผู้เป็นเจ้าของขนม กำลังเดินตามพวกเธออยู่ด้านหลัง พวกเธอรอฉันขนมก่อนแล้วจึงไป”

 ขณะที่พวกเด็กๆ ยืนหลีกทางให้พระภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูป เดินผ่านไปนั้น พวกเขาเห็นพระมหากัสสปเถระ กำลังเดินตามมาข้างหลัง เด็กเหล่านั้นเกิดความเคารพในตัวท่านมาก ต่างรีบวางกระเช้าลง กราบพระเถระด้วยเบญจางคประดิษฐ์ 

แล้วกราบนิมนต์ท่านรับขนม
พระเถระพูดว่า
“พระศาสดาพาพระภิกษุสงฆ์ประทับนั่งอยู่ที่ใต้โคนไม้ พวกเธอจงนำไปถวายพระศาสดา แล้วแบ่งถวายแด่พระภิกษุสงฆ์เถอะ”

พวกเด็กๆ ต่างรับคำท่าน พากันเดินถือกระเช้าขนมไปพร้อมกับพระเถระ พวกเขาถวายขนมแล้วยืนมองดูอยู่ ณ ที่สมควร
เพื่ออุปัฏฐากรับใช้ หลังจากพระภิกษุสงฆ์ฉันแล้ว จึงพากันกราบลาไปพร้อมๆ กัน

 เมื่อเด็กเหล่านั้นจากไปไม่นาน ภิกษุทั้งหลายต่างโจษจันกันว่า

“พวกเด็กเหล่านี้พากันถวายขนม เพราะเห็นแก่หน้าพระมหากัสสปะ ไม่ต้อนรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระมหาเถระทั้งหลายเลย”

พระบรมศาสดาตรัสชี้แจงว่า

“ภิกษุทั้งหลาย มหากัสสปะผู้เป็นบุตรของเรา เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ด้วยญาณทัสสนะ ตั้งอยู่ในธรรม พูดคำจริงเป็นปกติ มีการงานอันเป็นหน้าที่ของตนสมบูรณ์แล้ว ย่อมเป็นที่รักของเหล่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ผู้มีบุญทั้งหลายย่อมทำการบูชาเธอด้วยปัจจัยสี่โดยเคารพ”

ศีลเป็นเบื้องต้นของคุณธรรมการทำหน้าที่ภารกิจการงาน ชำระกายวาจาใจของตนให้สะอาดบริสุทธิ์แล้ว
ไม่ว่าจะย่ำเท้าย่างกรายไป ณ แห่งหนตำบลใด ย่อมไม่เก้อเขิน จะองอาจไม่หวั่นไหวไม่พรั่นพรึงต่ออันตรายทั้งปวง สุขภาพร่างกายย่อมสมบูรณ์แข็งแรง
ผิวพรรณวรรณะก็ผ่องใส เป็นที่รักที่เคารพยิ่งของเหล่ามนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย
ผู้มีคุณธรรมย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาผู้มีศีลมีวัตรบริบูรณ์ย่อมเป็นที่สรรเสริญของบัณฑิตนักปราชญ์ทั้งหลาย


วันแห่งความรัก
–ผู้มีวาสนาต่อกันเท่านั้น–
–จึงผูกพันธ์ต่อกัน——–

แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ