พระนางสามาวดี ตอนที่ 2

นายมาคัณฑิยะเข้าไปหาแล้ว กล่าวอย่างนี้ว่า

“ แม่ทั้งหลาย พระราชารับสั่งให้พันเสาเหล่านี้ด้วยผ้าชุบน้ำมัน

เพื่อประโยชน์แก่การทำให้มั่นคง ธรรมดาในพระราชวัง เรื่องที่กระทำ จะเป็นเรื่องดี หรือเรื่องชั่ว เป็นของรู้ได้ยาก

จงอย่าอยู่ในที่ใกล้เราเลย แม่ทั้งหลาย

ดังนี้แล้ว ให้หญิงเหล่านั้นเหล่านั้นเข้าไปในห้อง ปิดประตูแล้ว ลั่นดาลภายนอก จุดไฟ ตั้งแต่ต้นลงมาแล้ว.

พระนางสามาวดีได้ให้โอวาทแก่หญิงเหล่านั้นว่า “ การกำหนดอัตภาพ ซึ่งถูกไฟเผาอย่างนี้ของพวกเราผู้ท่องเที่ยวอยู่ในสงสาร

อันมีส่วนสุดไม่ปรากฏแล้ว แม้พุทธญาณก็ไม่ทำได้โดยง่าย

ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่ประมาทเถิด

หญิงเหล่านั้นเมื่อตำหนักถูกไฟไหม้อยู่

มนสิการซึ่งเวทนาปริคคหกัมมัฏฐาน (๑.กัมมัฏฐาน มีอันกำหนดเวทนาเป็นอารมณ์.)

บางพวกบรรลุสกทาคามีผล บางพวกบรรลุอนาคามีผล

วันนั้นสตรีเหล่านั้นทั้งหมดไม่อาจเข้าสมาบัติได้ เพราะอานุภาพของอุปปีฬกกรรมที่ทำในชาติก่อน ก็มอดไหม้ประหนึ่งกองขี้เถ้าพร้อมกันหมด

พระเจ้าอุเทนลงโทษพระนางมาคัณฑิยากับพวก

พระราชา ทรงสดับว่า ตำหนักของพระนางสามาวดีถูกไฟไหม้ แม้เสด็จมาโดยเร็ว ก็ไม่ทันทันแก่การณ์

ครั้นเสด็จมาถึงแล้ว ทรงเกิดโทมนัสมีกำลัง แวดล้อมด้วยหมู่อำมาตย์ ประทับนั่งอนุสรณ์ถึงพระคุณของพระนางสามาวดี ทรงพระดำริว่า

“ นี้เป็นการกระทำของใครหนอ “
ดังนี้แล้ว ทรงทราบว่า
“ กรรมนี้ จักเป็นกรรมอันนางมาคัณฑิยาให้ทำแล้ว “
ทรงพระดำริว่า

“ นางมาคัณฑิยานั้น อันเราทำให้หวาดกลัวแล้วถาม ก็จักไม่บอก เราจักค่อย ๆ ถามโดยอุบาย “

พระราชาจึงตรัสกะอำมาตย์ทั้งหลายว่า
“ผู้เจริญทั้งหลาย ในกาลก่อนแต่กาลนี้ เราลุกขึ้นเสร็จสรรพแล้ว ก็เป็นผู้ระแวงสงสัยอยู่รอบข้างทีเดียว

นางสามาวดีแสวงหาแต่โทษเราเป็นนิตย์ นางก็ตายไปแล้ว ก็บัดนี้ เราจักเย็นใจได้ละ เราจักได้อยู่โดยความสุข “

พวกอำมาตย์ทูลว่า

“ ข้าแต่สมมติเทพ กรรมนี้อันใครหนอแลทำแล้ว “
พระราชาตรัสตอบว่า

“ จักเป็นกรรม อันใคร ๆ ทำแล้วด้วยความรักในเรา “
พระนางมาคัณฑิยาทรงยืนเฝ้าอยู่ในที่ใกล้ ฟังพระดำรัสนั้นแล้ว จึงกราบทูลว่า

“ ใคร ๆคนอื่นจักไม่อาจทำได้ พระเจ้าข้า กรรมนี้อันหม่อมฉันทำแล้ว หม่อมฉันสั่งอาให้ทำ “

พระราชาตรัสว่า

“ ชื่อว่าสัตว์ผู้มีความรักในเราอื่น ยกไว้เสียแต่เจ้า ย่อมไม่มี เราพอใจ พระเทวี เราจะให้พรแก่เจ้า เจ้าจงให้เรียกหมู่ญาติของตนมา “

นางส่งข่าวไปแก่พวกญาติว่า

“ พระราชาทรงพอพระหฤทัย จะพระราชทานพรแก่เรา จงมาเร็ว “

พระราชารับสั่งให้ทำสักการะใหญ่ แก่ญาติทั้งหลายของพระนางมาคัณฑิยา
ซึ่งมาแล้ว ๆ แม้พวกคนผู้มิใช่ญาติของพระนางมาคัณฑิยาเห็นสักการะนั้นแล้ว ก็ให้สินจ้าง กล่าวว่า

“ พวกเราเป็นญาติของพระนางมาคัณฑิยา พากันมาแล้ว”

พระราชารับสั่งให้จับคนเหล่านั้นทั้งหมดไว้ แล้วให้ขุดหลุมทั้งหลายประมาณแค่สะดือ ที่พระลานหลวงแล้ว

ให้คนเหล่านั้นนั่งลงในหลุมเหล่านั้น
เอาดินร่วนกลบ ให้เกลี่ยฟางไว้เบื้องบน แล้วจุดไฟ ในเวลาที่หนังถูกไฟไหม้แล้ว

รับสั่งให้ไถด้วยไถเหล็กทั้งหลาย ให้ทำให้เป็นท่อนและหาท่อนมิได้ หรือเป็นชิ้นและหาชิ้นมิได้

พระราชารับสั่งให้เชือดเนื้อ แม้จากสรีระของพระนางมาคัณฑิยา ตรงที่มีเนื้อล่ำ ๆ ด้วยมีดอันคมกริบแล้ว ให้ยกขึ้นสู่เตาไฟอันเดือดด้วยน้ำมัน ให้ทอดดุจขนมแล้ว ให้เคี้ยวกินเนื้อนั้นแล.

ทรงพยากรณ์คติของอุบาสิกาเหล่านั้น

ครั้งนั้นแลภิกษุเป็นอันมาก กลับจากบิณฑบาตในภายหลังแห่งภัต (หลังจากฉันข้าว)

พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่โดยที่ใด เข้าไปเฝ้าโดยที่นั้น ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า
นั่งแล้ว ณ ส่วนข้างหนึ่ง ภิกษุเหล่านั้น ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานวโรกาส ในเวลาที่พระเจ้าอุเทน เสด็จไปสู่พระราชอุทยาน พระตำหนักของพระนางสามาวดีถูกไฟไหม้แล้ว หญิง ๕๐๐

มีพระนางสามาวดีเป็นประมุขทำกาละแล้ว ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คติของอุบาสิกาเหล่านั้นเป็นอย่างไร สัมปรายภพเฉพาะหน้าเป็นอย่างไร “


ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ