ปัตจัตตัง ธรรมทาน -: หน้าที่ 14 :- ..กรรมพันธุ์..

ปัตจัตตัง ธรรมทาน -: หน้าที่ 14 :- 

..กรรมพันธุ์..

สู้..กับอารมณ์ในใจทุกนาที
กระทบ..ทั้งกุศล..และอกุศล
กรรม..เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

เมื่อกายพร้อม..ใจพร้อม..ลงมือปฏิบัติจริงจัง..ทุกเรื่องเป็นข้อสอบ..อย่างดี

..สู้กับใจ..
ศรัทธาที่ตั้งมั่น..ควบคุมความลังเลสงสัย
ความเพียร..ควบคุมความเกียจคร้าน
สติ..ควบคุมความประมาท..ความงมงาย
สมาธิ..ควบคุมความฟุ้งซ่าน
ปัญญา..ความรอบรู้..ควบคุมแยกดีชั่ว
พลังงาน..ขับเคลื่อนกุศลให้เกิดขึ้นในใจ

กำลังของทาน..กำลังของศีล..ทำให้สมาธิมีกำลัง..มีสติ..ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว

..สู้กับกาย..
โรคภัยไข้เจ็บ..เป็นข้อสอบอย่างดี
ทำให้อดทน..ต่อความอยาก 
ทุกข์..เกิดกับกายทุกครั้ง..ที่ติดในรส
กินมาก..น้ำตาลขึ้น..ปัสสาวะทั้งวันทั้งคืน
ไตเสื่อม..หมดแรง..เป็นอุปสรรคในการเจริญสติ

..เริ่มต้นทุกวัน..กินแต่พอดี..พออยู่ได้..
..ระดับน้ำตาลในเส้นเลือด..คือ..ผลของความอดทน..มีเบาหวานเป็นเพื่อน..ค่อยเตือนสติ..ไม่ให้ติดในรส..

..ระวังมาก..ตึงไปอีก..น้ำตาลต่ำ..
 ..เป็นลม..จะล้มทั้งยืน..ไม่เป็นไรมีสติ..
..นั่งหายใจลึกๆ เอาน้ำหวานมาดื่ม..ให้น้ำตาลขึ้น..

..หลับตา..พิจารณากฏไตรลักษณ์..

..ลักษณะไม่เที่ยง..มีการแปรเปลี่ยนเป็นธรรมดา..

..ลักษณะทนอยู่ตลอดไม่ได้.. 
..ถูกบีบคั้น..ด้วยอำนาจของธรรมชาติกาย..ไม่สามารถทนอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอด..

..ลักษณะไม่สามารถบังคับบัญชา..
..ให้เป็นไปตามต้องการได้..
..ไม่สามารถบังคับ..ให้ชีวิตแข็งแรง..ยั่งยืนได้ตลอด..
..ไม่สามารถบังคับจิตใจ..ให้เป็นไปตามปรารถนา..

..หนทาง..ยังอยู่อีกยาวไกล..
..กรรมที่เป็นกรรมพันธุ์..แม่เป็นเบาหวาน..
..เลือดเนื้อ..ที่แม่ให้มาตั้งแต่เกิด..ได้รับ
มรดกทางสายเลือด..ทำให้เป็นโรคเดียวกันกับแม่..

..ทุกข์..ทำให้เห็นกฏไตรลักษณ์..อย่างแจ่มแจ้ง..

..กฏไตรลักษณ์..ธรรมวิเศษที่สามารถทำให้เห็นความเป็นจริง..ของกาย..ใจ..
เป็นเส้นทาง..เข้าสู่มรรคผล..ได้ไม่ยาก..แต่ก็ไม่ง่าย..

..ใช้เวลา..และโอกาส..อย่างมีคุณค่าที่สุด..
..ใช้ร่างกาย..ที่พ่อแม่ให้มา..สร้างบุญกุศล..อุทิศให้ทุกวัน..อีกครูบาอาจารย์..ปู่ย่าตายายผู้ล่วงลับ..

..มีกายสังขารก็มีโอกาส..
..ไม่มีกายสังขารก็หมดโอกาสทุกอย่าง..

..มีสติ..ให้รู้เท่าทัน..
..รู้เท่าทัน..ในการเคลื่อนไหว..
..กายสังขาร..ในอันที่จะการสร้างกรรมใดๆ นั่น..คือ..ศีล..

..รู้เท่าทันในอารมณ์..ที่ปรุงแต่ง..
..จนจิตเป็นอิสระ..จากอารมณ์..นี่..คือ..สมาธิ..

..รู้เท่าทันความคิดทั้งหลาย..
ว่า ความคิดเป็นเหตุ..เป็นผลหรือไม่..นี้คือ..ปัญญา..

..การเรียนรู้..กาย..ใจ..ไม่จบสิ้นง่ายๆ
ผลของกรรมดี..และกรรมไม่ดี..ส่งมาเป็น
อารมณ์ต่างๆอย่างแยบยล

เรื่องที่เขียน..ไม่ใช่เรื่องที่อ่านมา
เป็นเรื่องที่ปฏิบัติมาเฉพาะตัว..เฉพาะตน
..น้อมถวายอุทิศให้บิดามารดา..

..ถวายเป็นพุทธบูชาแด่คุณพระศรีรัตนตรัย..

..สาธุ..ปัตจัตตัง..ธรรมทาน..

..ดร.แม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ..